บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่! ลงทะเบียนก่อนสิ้น มี.ค.68 คาดยอดพุ่ง 25 ล้านคน
รมช.คลัง คาดลงทะเบียน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่" เดือน มี.ค.นี้ มีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน พร้อมสั่งสศค. ทบทวนเกณฑ์คัดกรองให้รอบคอบ สกัดคนจนปลอม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ว่า ที่ประชุมได้รับทราบ และได้หารือการเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ซึ่งจะเริ่มก่อนสิ้นเดือน มี.ค.68 เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบัน 14.5 ล้านคน และอีก 10 ล้านคน เป็นกลุ่มใหม่ ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมากจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี หรือกลุ่มที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับสิทธิ
ตัวเลขผู้ลงทะเบียนจะใกล้เคียงกับรอบก่อน ที่มี 20 กว่าล้านคน แต่เมื่อผ่านการคัดกรองแล้ว คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจกระเตื้อง และรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนบางกลุ่มหลุดพ้นจากความยากจน
สำหรับรายละเอียดการลงทะเบียน เบื้องต้น กลุ่มผู้มีสิทธิเดิม 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ รัฐบาลจะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ ส่วนกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน จะต้องมีการลงทะเบียน โดยจะเริ่มได้ก่อนสิ้นเดือนมี.ค.68 ทั้งนี้ ได้มีการมอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ และขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบถึงสวัสดิการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน พบว่า มีประชาชนที่ได้รับสิทธิ แต่ไม่ได้ไปยืนยันตัวตน และไม่ได้รับสวัสดิการกว่า 1 ล้านคน จึงขอแจ้งให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าว ไปตรวจสอบสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ Welfare.mof.go.th จากนั้นให้เร่งดำเนินการยืนยันตัวตนผ่านธนาคารกรุงไทย ภายใน 26 ธ.ค.นี้ เพื่อรับสิทธิสวัสดิการที่เหลือ แต่จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง
ที่ผ่านมาการทำโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในรอบใหม่มีความตั้งใจที่จะให้กระบวนการลงทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติ รู้ผลได้ภายในก.ค.68 เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดตั้งงบประมาณในปี 69
ขณะเดียวได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ทบทวนเกณฑ์คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิให้มีความรัดกุมมากขึ้น ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิ แล้วกลับมาเสนอภายใน 1 เดือน ซึ่งในด้านเกณฑ์รายได้ครัวเรือนยังมีอยู่เหมือนเดิม ขณะที่เกณฑ์เรื่องการถือครองที่ดิน จะทำให้สามารถตรวจสอบใช้ได้จริง
ข่าวแนะนำ