คาดกำแพงภาษีกระทบศก.สหรัฐฯ ปี 2569
คาดมาตรการขึ้นภาษีนำเข้า “ทรัมป์” จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2569
“เสธ คาร์เพนเตอร์” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ “มอร์แกน สแตนเลย์” ระบุกับ CNBC ว่า ข้อเสนอขึ้นภาษีศุลกากรของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2569
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชันวิสัยทัศน์ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนกันยายน “ทรัมป์” ระบุว่ามีความตั้งใจที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดร้อยละ 10-20 ขณะที่จะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนระหว่างร้อยละ 60-100
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคำถามว่ามาตรการภาษีดังกล่าวจะถูกใช้เมื่อใดและรวดเร็วเพียงใด โดย “คาร์เพนเตอร์” มองว่า หากบังคับใช้มาตรการภาษีเหล่านี้ทั้งหมดในครั้งเดียว ก็อาจทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
“มอร์แกน สแตนเลย์” ประเมินว่า ในกรณีพื้นฐาน ภาษีดังกล่าวจะถูกใช้อย่างแพร่หลายตลอดปี 2568 และจะนำไปสู่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
จากนั้นในปี 2569 การเติบโตทางเศรษฐกิจจะเริ่มลดลงอย่างมากในสหรัฐฯ เนื่องจากมาตรการกำแพงภาษีและนโยบายอื่น ๆ
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ “มอร์แกน สแตนเลย์” ระบุว่า มีความชัดเจนมากที่การปรับขึ้นภาษีศุลกากรจะผลักดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และชัดเจนเช่นกันที่กำแพงภาษีดังกล่าวจะเป็นตัวฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ใช่แค่ประเทศที่ถูกจัดเก็บภาษีเท่านั้น
ด้าน “มาร์ก มาเล็ก” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุนของบริษัทโบรกเกอร์ “ซีเบิร์ต” (Siebert) มองว่า หากมีการเสนอจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมนอกเหนือจากรัฐบาลของ “โจ ไบเดน” ที่ขึ้นภาษีในหลายอุตสาหกรรมแล้ว ทั้งรถยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร การก่อสร้างและค้าปลีก นี่ก็อาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
โดยเฉพาะการเก็บภาษีสินค้าจีนอีกร้อยละ 60 นอกเหนือจากที่ขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีน จะกระทบอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างมีนัยสำคัญ
ข่าวแนะนำ