เปิดแนวทางไทยรับมือ "ทรัมป์ 2.0"
สถานีข่าว TNN เปิดเวทีเสวนา "เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย เมื่อทรัมป์หวนคืนทำเนียบขาว" พร้อมแนะแนวทางไทยเพื่อหาโอกาสท่ามกลางนโยบาย "ทรัมป์2.0"
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า ภายใต้นโยบาย “ทรัมป์ 2.0” เป็นเรื่องที่ทั่วโลกจับตาดูว่าทรัมป์จะทำนโยบายที่หาเสียงไว้ได้มากน้อยเพียงใด ภายใต้นโยบาย America First ที่ให้ความสำคัญกับการดึงการลงทุนกลับสหรัฐฯ
ดังนั้นสิ่งที่ไทยต้องทำ คือการเข้าไปคุยกับสหรัฐโดยตรง เพื่อจะดูว่าเราจะเข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนของสหรัฐฯ ได้อย่างไร พร้อมรับมือกับสินค้าจีนที่จะทะลักเข้ามา เพราะทรัมป์จะมีการขึ้นกำแพงภาษีร้อยละ 10 ทุกประเทศ ส่วนประเทศจีนจะขึ้นกำแพงภาษีร้อยละ 60-100
ส่วนนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นโยบายทรัมป์เน้นปกป้องสินค้าในประเทศ จึงกระทบต่อประเทศที่ส่งออกเข้ามายังสหรัฐฯ แน่นอน เช่น จีน เม็กซิโก และแคนนาดา ดังนั้นโอกาสของไทยในนโยบายทรัมป์ คือ ไทยสามารถส่งสินค้าทดแทนไปยังประเทศที่ได้รับผลกะทบจากนโยบาย “ทรัมป์ 2.0” ได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งการทูตพาณิชย์แต่ละประเทศไปแล้ว ส่วนกรณีสินค้าจีนจะไหลเข้ามายังอาเซียนนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือ การบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้เข้มงวด
ขณะที่นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายทรัมป์ส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย ผลจากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้น แนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลง ราคาตั๋วในเส้นทางไกล น่าจะลดลงได้ ซึ่งส่งเสริมดึงนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยได้
ด้านดร. อมรเทพ จาวลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า การกลับมาของทรัมป์ จะทำให้ดอลล์แข็งค่าต่อเนื่อง ราคาทองคำร่วงและผันผวน แนวโน้มราคาน้ำมันลดลง เงินเฟ้อและต้นทุนต่างๆ ถูกลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการเกษตร
และปิดท้ายที่ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่า มองว่านโยบายทรัมป์ภาค 2 จะโหดจากภาคแรกมาก มีประเด็นเกี่ยวข้องกับไทย 5 เรื่อง คือ
1.การค้า ที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า //2.การลงทุน ทรัมป์ต้องการให้นักลงทุนสหรัฐฯ กลับไปยังประเทศ มองว่าเป็นโอกาสในบางอุตสาหกรรม ที่อาจกันมาลงทุนไนไทย //3.สงครามเทคโนโลยี คาดว่าจะรุนแรงขึ้น เห็นได้จากการที่ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง มาร์โค รูบิโอ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งรูบิโอเป็นคนที่ต่อต้านจีนเต็มรูปแบบ 4.ภูมิรัฐศาสตร์ และ5.เรื่อง Climate change หรือ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ