ยุคดิจิทัลเปลี่ยนไว เทคโนโลยี และ AI จะช่วยไทยแข่งขันในระดับโลกอย่างไร?

ในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางและความสำเร็จของธุรกิจ รวมถึงเศรษฐกิจในระดับประเทศ สถานีข่าว TNN16 เปิดเวทีงานสัมมนา  "Empowering Thailand ยุทธศาสตร์ประเทศไทย 2568" เป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ร่วมกันถกแนวทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยี  โดยเฉพาะการใช้ AI  

ดร.ศุภกร สิทธิไชย ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กล่าวถึงสถานะของประเทศไทยในสนามการแข่งขันด้านดิจิทัลว่า ประเทศไทยมีศักยภาพโดดเด่นในด้านการทดลอง และปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)

"คนไทยรู้จัก AI และเริ่มนำมาใช้ แต่คำถามคือการใช้ AI ช่วยพัฒนาธุรกิจหรือวางแผนชีวิตได้เกิดขึ้นจริงหรือยัง?" ดร.ศุภกรกล่าว พร้อมชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบด้านและการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบของเทคโนโลยีต่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีการออก พระราชบัญญัติการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการเติบโตด้านนี้ ดีป้าจึงมีบทบาทสำคัญในฐานะ "โปรโมเตอร์" หรือผู้ส่งเสริมให้ประชาชนและธุรกิจใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ

หนึ่งในตัวอย่างที่ดีป้าดำเนินการคือการผลักดัน สมาร์ทซิตี้ โดยปัจจุบันประเทศไทยมี 36 เมืองที่ได้รับการพัฒนาเป็นสมาร์ทซิตี้ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ระดับเทศบาลไปจนถึงมหาวิทยาลัย เป้าหมายคือการใช้เทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ความท้าทายในการเป็นผู้สร้างเทคโนโลยี

แม้คนไทยจะมีความเชี่ยวชาญในการรับและปรับตัวต่อเทคโนโลยีใหม่ แต่ดร.ศุภกรชี้ว่า ความท้าทายสำคัญคือการนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงเศรษฐกิจ เช่น การลดต้นทุน การเข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตลาด

ตัวอย่างหนึ่งคือ AI และ 5G ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับโลกที่ประเทศไทยมีการลงทุนและใช้งานอย่างก้าวหน้า "เราต้องถามตัวเองว่า เราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างไรเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศ"

AI ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป แต่การใช้งานกลับกลายเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน หนึ่งในหน้าที่สำคัญของดีป้าคือการสร้างความตระหนักรู้ เช่น การป้องกันภัยจากมิจฉาชีพทางดิจิทัล หรือการใช้ AI ในลักษณะที่เป็นประโยชน์

ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ การลงทุนในสตาร์ทอัพไทย อย่างบริษัท "วิสัย" ที่พัฒนา AI สำหรับการแปลภาษา เพื่อช่วยธุรกิจรายเล็กให้เข้าถึงข้อมูลตลาดได้ง่ายขึ้น เทคโนโลยีลักษณะนี้สามารถพลิกโฉมเกมการตลาดและการทำธุรกิจในประเทศได้

นอกจากการส่งเสริมการใช้งานเทคโนโลยี ดร.ศุภกรยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนนักคิด นักพัฒนา และนักวิจัยในประเทศ "การส่งเสริมให้คนไทยเป็นผู้สร้างเทคโนโลยีเองจะสร้างผลประโยชน์ที่ยั่งยืนมากกว่าการเป็นเพียงผู้ใช้งาน" และให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะบุคลากรในด้านดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการ Upskill หรือ Reskill เพื่อให้คนไทยสามารถก้าวทันความเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

"ทรานส์ฟอร์มธุรกิจไทยในยุคดิจิทัล การก้าวสู่ความเข้าใจผู้บริโภคและการใช้ข้อมูล"

ดร.ลิสา พัฒน์วิวัฒน์ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านดิจิทัล บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงโอกาสและความท้าทายของประเทศไทยในยุคดิจิทัล พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับตัวและการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแรง ซึ่งเปรียบเสมือนการมีเสาเข็มของบ้านที่มั่นคงและพร้อมต่อเติม "พฤติกรรมของคนไทยที่ใช้เวลาบนมือถือสูงมากก็เป็นอีกข้อได้เปรียบ" ดร.ลิสากล่าว

อย่างไรก็ตาม การระบาดของโควิด-19 ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคและทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องเร่งปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็ว

ดร.ลิสา ระบุว่า AI ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการเทคโนโลยี แต่ปัจจุบัน AI ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเพราะใช้งานง่ายกว่าเดิม "ในอดีต AI ใช้ได้เฉพาะผู้เชี่ยวชาญ แต่วันนี้ทุกคนสามารถใช้งานได้ แต่ปัญหาคือ AI ไม่ได้ถูกต้องเสมอ และหากผู้ใช้งานไม่เข้าใจ อาจเกิดผลกระทบที่ไม่คาดคิด" 

องค์กรที่ต้องการนำ AI มาใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานของ AI และใช้ข้อมูลที่แม่นยำเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ และ ในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพยากรสำคัญ ธุรกิจไม่สามารถพึ่งพาการสื่อสารแบบแมสหรือหว่านอีกต่อไป ดร.ลิสาแนะนำหลัก "3 รู้" ที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจด้วยข้อมูล ได้แก่

1. 
   
2. - รู้จัก: เข้าใจว่าลูกค้าเป็นใคร เช่น อายุ เพศ ไลฟ์สไตล์
3. - รู้ใจ: เข้าใจว่าลูกค้าชอบหรือสนใจอะไร
4. - รู้แจ้ง: เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรในปัจจุบัน
5. 
   

การใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และสื่อสารได้ ถูกที่ ถูกเวลา ถูกใจ เช่น การนำเสนอสินค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่แสดงสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า

นอกจากนี้ ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวัน สิ่งที่หลายคนมักมองข้ามคือ เป้าหมาย ของการใช้เทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงเพราะคนอื่นใช้ เราก็ต้องใช้ตาม แต่สิ่งสำคัญคือการถามตัวเองว่า เราใช้เทคโนโลยีเพื่ออะไร และจะนำมาเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจหรือชีวิตของเราอย่างไร 

การใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ใช้เพื่อ เพิ่มประสบการณ์ ให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้งาน หรือ เพิ่มยอดขายไม่มีใครสามารถเก่งทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง แต่การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมาย จะช่วยให้เราได้ประโยชน์สูงสุด

ประเทศไทยมีโอกาสที่ดีในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลที่มีอยู่ แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความสามารถในการเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่ สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงการมีเทคโนโลยีในมือ แต่คือการใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจและมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ

ยกระดับการตลาดไทยด้วยเทคโนโลยีและ AI 

ดร.ปรัชญ์ เหตระกูล Marketing Science Partner จาก Meta Thailand ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดในระดับโลก โดยใช้เทคโนโลยีและ AI เป็นเครื่องมือสำคัญ โดยการ ปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด หากเปรียบเทียบการตลาดกับการเล่นฟุตบอล ทีมที่แข็งแกร่งไม่ได้เพียงแค่ส่งลูกบอลไปข้างหน้า แต่ต้องรู้จักวางกลยุทธ์และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เขากล่าวว่า "การลงทุนทุกบาทในการตลาดต้องได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุด"

การตลาดในยุคปัจจุบันต้องอาศัย Marketing Mix Model (MMM) เพื่อวัดผลที่แท้จริงของการลงทุน ไม่ใช่แค่จำนวนไลก์หรือแชร์ แต่คือการเพิ่มยอดขายหรือผลตอบแทนทางธุรกิจที่จับต้องได้

นอกจากนี้ AI ยังสามารถนำมาเป็นตัวช่วยสำคัญ ในการขับเคลื่อนการตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการตลาดในหลายด้าน อาทิ 

1. 
   
2. - การวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างแคมเปญอัตโนมัติ: AI สามารถเรียนรู้ระหว่างที่แคมเปญกำลังดำเนินอยู่ ช่วยให้นักการตลาดปรับเปลี่ยนกลยุทธ์แบบเรียลไทม์
3. - Generative AI: ช่วยสร้างสื่อโฆษณาหรือภาพประกอบอัตโนมัติ ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการผลิต
4. - Machine Learning: ช่วยให้แคมเปญเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสเป็นลูกค้าจริง
5. 
   

การตลาดที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ ไม่ได้มาจากการใช้เครื่องมือทันสมัยเท่านั้น แต่ต้องเริ่มจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การใช้ทรัพยากรลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพ : TNN