รับค่าไฟแพง! การ์ทเนอร์ คาด AI Data Center ดันใช้ไฟพุ่ง l การตลาดเงินล้าน

บ็อบ จอห์นสัน รองประธานนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลใหม่ ๆ เพื่อรองรับ Generative AI หรือ GenAI ทำให้เกิดความต้องการการใช้พลังงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและนำไปสู่การถึงขีดจำกัดของความสามารถในการขยายกำลังการผลิตของผู้ให้บริการสาธารณูปโภค ส่งผลให้เกิดปัญหาพลังงานไม่เพียงพอและจำกัดการเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ ๆ ที่รองรับ GenAI รวมถึงการใช้งานอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2569

การ์ทเนอร์ ประเมินว่า ในปี 2570 ปริมาณพลังงานที่ดาต้าเซ็นเตอร์ต้องใช้เพื่อขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มขึ้นและปรับแต่งสำหรับ AI จะทะยานไปถึง 500 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง (TWh) ต่อปี ซึ่งมากกว่าปี 2566 ถึง 2.6 เท่า 

ทั้งนี้ ดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ใหม่ ๆ ออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณข้อมูลมหาศาลที่จำเป็นสำหรับการฝึกฝนและปรับใช้ของ Large Language Models หรือ LLMs อันเป็นพื้นฐานของแอปพลิเคชัน GenAI ที่กำลังขยายตัวรวดเร็ว 

อย่างไรก็ตามการขาดแคลนพลังงานในระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากการจัดส่งพลังงาน การจัดจำหน่ายและการผลิตพลังงานใหม่อาจใช้เวลาหลายปี กว่าจะเริ่มใช้งานได้ ซึ่งจะไม่สามารถบรรเทาปัญหาในปัจจุบันได้

ตามรายงานของการ์ทเนอร์ ยังระบุว่า ราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นคือผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จากปัญหาการขาดแคลนพลังงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนการดำเนินการด้าน LLMs 

อย่างไรก็ตามราคาค่าไฟอาจเพิ่มสูงขึ้น ผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ ๆ กำลังทำงานร่วมกับผู้ผลิตพลังงานขนาดใหญ่เพื่อสร้างแหล่งพลังงานระยะยาวที่มีความเป็นอิสระจากความต้องการอื่น ๆ ของระบบไฟฟ้า ระหว่างนี้ ต้นทุนพลังงานสำหรับดำเนินการ Data Center จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผู้ประกอบการใช้อำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเพื่อให้ได้พลังงานที่ต้องการ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะถูกผลักภาระไปยังผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการของ AI หรือ GenAI อีกด้วย

การ์ทเนอร์ แนะนำให้องค์กรต่าง ๆ ประเมินแผนในอนาคต โดยคำนึงถึงต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และเจรจาสัญญาระยะยาวสำหรับบริการ Data Center ในอัตราค่าพลังงานที่สมเหตุสมผล องค์กรควรคำนึงถึงการเพิ่มขึ้นของต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อพัฒนาแผนผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ พร้อมทั้งมองหาแนวทางหรือทางเลือกที่ใช้พลังงานน้อยลง