สศช.เผยจีดีพีไทยไตรมาส3 ปีนี้โตร้อยละ 3
สศช.เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3 คาดทั้งปี2567 โตร้อยละ 2.6 และร้อยละ 2.3-3.3 ในปีหน้า พร้อมจับตาใกล้ชิดมาตรการกีดกันทางการค้าหลัง "ทรัมป์" กลับมาสมัยที่ 2
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สามของปี 2567 ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพีไตรมาสสามปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบระยะเดียวกันปีก่อน และขยายตัวร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ภาพรวมจีดีพีไทย 9 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 2.3
โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาสสามขยายตัวดีเกินคาดส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนที่เร่งขึ้นขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ที่ร้อยละ 5.2 โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาสที่ร้อยละ 25.9 เนื่องจากมีการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนก่อสร้าง และ บีโอไอเร่งรัดผู้ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนให้เร่งลงทุนจริง อย่างไรก็ดีการลงทุนภาคเอกชนยังหดตัวร้อยละ 2.5
ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวดีมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสามที่ผ่านมา
นอกจากนี้ผลจากฐานที่อยู่ระดับต่ำในไตรมาส 3 ปี 2566 ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จีีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวถึงร้อยละ 3 จากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 0.5 สำหร้บแนวโน้มไตรมาสสุดท้ายของปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ต่อเนื่อง และคาดว่าทั้งปี 2567 จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.6 จากเดิมคาดไว้ที่ร้อยละ 2.5 หรือมีค่ากลางที่ร้อยละ 2.0-3.0
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งปี 2568 สศช. ประเมินว่าจะขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 2.3 - 3.3 โดยมีค่ากลางที่ร้อยละ 2.8 โดยการลงทุนภาครัฐจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อชดเชยผลกระทบการส่งออกที่อาจชะลอลงจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจากการกลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่ 2 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ดีคาดว่าการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้และช่วงต้นปีหน้าในไตรมาส 1 และ 2 ปี 2568 ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่ต้องติดตามนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดว่าจะดำเนินการเมื่อไร และครอบคลุมสินค้าประเภทใดบ้าง เพื่อประเมินผลกระทบและเตรียมมาตรการรองรับ
ทั้้งนี้สศช. คาดว่ามูลค่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.8 จาเดิมคาดไว้ที่ร้อยละ 2.0 และปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 2.6
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ