ทีทีบีชี้รัฐออกมาตรการแก้หนี้รถถูกยึดน้อยลง

นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์มือสอง ในช่วงที่ผ่านมาอาจมีประเด็นคุณภาพสินเชื่อ ก่อให้เกิดการฟ้องร้อง และยึดรถมากขึ้น ทำให้มีปริมาณรถยนต์ไหลเข้ามาในตลาดรถมือสองมากขึ้น ราคาจึงตกลงไป แต่ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เริ่มเห็นการชะลอตัวของรถที่ไหลเข้าร้านประมูลมือสองแล้ว จึงเชื่อว่า หากมีการปรับโครงสร้างมากขึ้น มีมาตรการช่วยเหลือมากขึ้น ซัพพลายจะน้อยลง กลับสู่ระบบตลาดรถยนต์มือสองแบบเดิมได้ ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสของตลาดรถยนต์มือสองต่อไป 

ส่วนในปี 2568 ตลาดรถยนต์น่าปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามทิศทางเศรษฐกิจ และมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยด้วย  ประเมินตามประเภทรถยนต์ร้อยละ 25-30 เป็นสินเชื่อรถกระบะ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าได้รับผลกระทบเยอะ แต่เมื่อเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลออกมาที่ชัดมากขึ้น ไตรมาส 4/2567 ยอดขายรถกระบะกระเตื้องขึ้นกว่าเดิม  ซึ่งเป็นผลจากการกลับมาของเศรษฐกิจ ภาพการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ผลผลิตเกษตรที่ออกมาและขายได้มากขึ้น ทำให้เห็นยอดขายรถกระบะดีดตัวขึ้น ในไตรมาส 2/2568 น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีของทั้งตลาดรถใหม่ และรถมือสอง 

นายฐากร กล่าวว่า มาตรการแก้หนี้ที่รัฐบาลจะมีออกมาช่วยเหลือเป็นการช่วยกลุ่มเปราะบาง ซึ่งกลุ่มรถกระบะที่ใช้รถเพื่อประกอบอาชีพก็เป็นส่วนที่มีอยู่ หากช่วยได้เยอะ จำนวนรถที่ถูกยึดก็จะลดลง โดยมองว่ามาตรการช่วยเหลือจะช่วยยึดให้กลุ่มผู้ที่ใช้รถเพื่อประกอบอาชีพ จะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไป ลดซัพพลายที่จะเข้าไปในตลาดรถมือสอง พยุงเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป เป็นทิศทางที่บวกขึ้นกว่าเดิม 

ส่วนมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บ้าน-รถยนต์ เชื่อว่าจะเป็นตัวช่วยลดปริมาณรถถูกยึดได้อีก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในช่วงต้นปีหน้าตามกำหนด ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการในระบบหลังบ้านต่างๆ ซึ่งทีทีบีมีรถที่เข้าเกณฑ์อยู่ประมาณ 100,000 คัน และประเมินว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 50,000 คัน โดยพยายามคัดเลือกลูกหนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบางจริงๆ ขณะที่ลูกหนี้บางรายอาจไม่ต้องการเข้าร่วม เพราะตามเกณฑ์แล้วจะต้องมีการควบคุมการก่อหนี้เป็นระยะเวลา 3 ปี ผู้เข้าร่วมมาตรการจะต้องมั่นใจว่าจะไม่ก่อหนี้ใน 3 ปีนี้ได้จริงๆ

ที่มา TNN