TNN ลุยปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์รอบปี 69-73

TNN

เศรษฐกิจ

ลุยปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์รอบปี 69-73

ลุยปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์รอบปี 69-73

"เผ่าภูมิ" ชี้เทรนด์รถยนต์เดินหน้าไปสู่อีวี ลุยปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์สันดาปใหม่ รอบปี 2569-2573 แบบค่อยเป็นค่อยไป

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ปัจจุบันแข่งขันสูง และยังไม่ทราบชัดเจนว่าจะไปทิศทางใด เช่น จะไปในทางยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (บีอีวี) หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (พีเอชอีวี) 


ขณะที่โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่เอนเอียงมาทางรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อย่างเดียว อาจไม่ใช่คำตอบ ดังนั้น คลังต้องรักษาสมดุลเรื่องของโครงสร้างภาษีทั้งระบบ 


ทั้งนี้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไม่ไปทำร้ายอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปภายในอย่างรุนแรง และรวดเร็วจนเกินไป เพราะการดำรงอยู่ของสายการผลิต หรือซับพลายเชนของอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปภายในมีมาก 


หากอุตสาหกรรมนี้ได้รับผลกระทบ จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลต่อการจ้างงาน ดังนั้น การดำเนินการกับอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปภายใน จำเป็นต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป


รายงานข่าวแจ้งว่า ตามที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เรื่องการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 


โดยโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์สันดาปปัจจุบัน คิดอัตราภาษีที่ขึ้นอยู่กับการปล่อยคาร์บอนของรถยนต์ อาทิ หากปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า หรือเท่ากับ 100 กรัมต่อกิโลเมตร 


กรณีที่เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน อี10 และ อี20 จะมีอัตราภาษีสรรพสามิตที่ร้อยละ 25 และกรณีที่ใช้ อี85 และเอ็นจีวี อัตราภาษีจะอยู่ที่ร้อยละ 20 และหากปล่อยมากกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราภาษีจะอยู่ที่ร้อยละ 35 และร้อยละ 30 ตามลำดับ


สำหรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์สันดาปใหม่ มีระยะเวลาตั้งแต่ 2569-2573 จะจูงใจให้ผลิตรถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนน้อย เช่น ในปี 2569 รถยนต์สันดาปที่ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า หรือเท่ากับ 100 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 13 แต่จะปรับเพิ่มขึ้นปี 2571 เป็นร้อยละ 14 ปี 2573 เป็นร้อยละ 15 เป็นต้น 


ส่วนรถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนมากกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ในปี 2569 อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 34 ปี 2571 เป็นร้อยละ 36 และปี 2573 เป็นร้อยละ 38 เป็นต้น


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง