มูลค่า TESLA พุ่งเชื่อ "ทรัมป์" หนุนรถไร้คนขับ l การตลาดเงินล้าน
ความคึกคักของหุ้น Tesla ที่พุ่งขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนมาร์เก็ตแคป ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบกว่า 2 ปี
ตลาดรถอีวี ดูเหมือนว่า Tesla ใกล้จะเพลี้ยงพล้ำให้กับ BYD ที่มาจ่อเบียดขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกในอนาคต
แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในมุมมองของนักลงทุนและตลาดหุ้น เชื่อว่า Tesla ที่กำลังมุ่งมั่นกับรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติแบบไร้คนควบคุม และโรโบแท็กซี่ อาจกำลังมีหนทางที่สดใส หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ได้ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่ง อีลอน มัสก์ ประกาศเป็นผู้สนับสนุน กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง
ซึ่งหลังผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจน ก็ส่งผลต่อราคาหุ้น Tesla ให้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (8 พฤศจิกายน 2024) มูลค่าตามราคาตลาด ของ Tesla กลับขึ้นมามีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้าน ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี
สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น Tesla ปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 29 ขณะที่ Garrett Nelson นักวิเคราะห์หุ้นอาวุโสของ CFRA Research กล่าวกับรอยเตอร์ส บอกว่า Tesla และ อีลอน มัสก์ อาจจะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงจากผลการเลือกตั้งนี้ เพราะเชื่อว่า ชัยชนะของ ทรัมป์ จะช่วยเร่งการอนุมัติด้านกฎระเบียบสำหรับเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติของบริษัทฯ ดังกล่าว
ส่วน David Whiston นักยุทธศาสตร์ด้านหุ้นของ Morningstar กล่าวว่า หาก มัสก์ สามารถโน้มน้าวให้ ทรัมป์ ออกกฎเกณฑ์สำหรับยานยนต์ไร้คนขับของรัฐบาลกลางได้ เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะคิดว่า บริษัทต่าง ๆ ต้องการจะอยู่ภายใต้กฎหมายชุดเดียว แทนที่จะให้แต่ละรัฐสร้างข้อกำหนดของตนเองขึ้นมา
ด้าน Dan Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush กล่าวกับ ซีเอ็นบีซี ซึ่งเขาบอกว่า การบริหารของ ทรัมป์ ที่มีศักยภาพอาจทำให้มีกฎระเบียบที่น้อยลงสำหรับ Tesla และบริษัทอื่น ๆ ได้ ซึ่ง Tesla มีขนาด และขอบเขตที่ไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และพลวัตนี้อาจทำให้ มัสก์ และเทสลา มีความได้เปรียบในการแข่งขันที่ชัดเจนในสภาพแวดล้อมการอุดหนุนที่ไม่ใช่ อีวี ควบคู่ไปกับอัตราภาษีศุลกากรของจีนที่สูงขึ้น ซึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะผลักดันผู้เล่นอีวีราคาถูกจากจีน ออกไปจากการทุ่มตลาดสหรัฐฯ
นอกจากนี้ จากการที่มาร์เก็ตแคป หุ้นเทสลา ปรับสูงขึ้น ก็ทำให้ความมั่งคั่งของ มัสก์ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามรายชื่อมหาเศรษฐีแบบเรียลไทม์ของ Forbes ล่าสุด อีกด้วย
ข่าวแนะนำ