“พาวเวล" ลั่นไม่ลาออก ชี้ “ทรัมป์” ไร้อำนาจปลด
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นการประชุมอีกครั้งหนึ่งที่ถูกจับตา เพราะเกิดขึ้นพร้อมกับชัยชนะของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ซึ่งมติล่าสุด เฟดก็หั่นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ตามคาด พร้อมกับคำยืนยันของ "เจอโรม พาวเวล" ว่าประธานาธิบดีไร้อำนาจที่จะไล่เขาออก
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติเอกฉันท์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นร้อยละ 0.25 ลงสู่ร้อยละ 4.50-4.75 ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ นับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่เฟดเริ่มต้นวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.50 ในเดือนกันยายน
แถลงการณ์ของ FOMC ระบุว่า ตัวชี้วัดล่าสุดบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่มั่นคง ตั้งแต่ช่วงต้นปี ขณะที่สภาพตลาดแรงงานโดยทั่วไปผ่อนคลายลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นแต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ด้านอัตราเงินเฟ้อมีพัฒนาการที่มุ่งหน้าไปสู่อัตราเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ของคณะกรรมการ อย่างไรก็ดี คณะกรรมการ ยังมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจ้างงานในระดับเต็มศักยภาพและจะนำอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายร้อยละ 2 ดังนั้น คณะกรรมการจึงตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ดังกล่าว
ในแถลงการณ์ของ FOMC ครั้งนี้ ยังต่างจากครั้งก่อนหน้า ตรงที่มีการตัดข้อความว่า “คณะกรรมการมีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวไปสู่ระดับร้อยละ 2 อย่างยั่งยืน” ออกไปด้วย ซึ่งแสดงว่า FOMC เริ่มไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะลงสู่เป้าหมายที่ร้อยละ 2
ขณะที่ "เจอโรม พาวเวล" ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณภายหลังการประชุมว่า เฟดยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะดำเนินนโยบายการเงินเช่นใดในเดือนธันวาคม แต่ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เฟดก็พร้อมที่จะปรับการประเมินนโยบายการเงินให้อยู่ในทิศทางที่เหมาะสม และย้ำด้วยว่าการประชุมในครั้งนี้ เฟดไม่ได้กำหนดทิศทางเรื่องดอกเบี้ย บนปัจจัยจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสัปดาห์นี้แต่อย่างใด
"พาวเวล" ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยว่าหากว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไป ซึ่งหมายถึง "โดนัลด์ ทรัมป์" ขอให้เขาลงจากตำแหน่ง เขาจะไม่ลาออก โดยย้ำว่า “กฎหมายไม่อนุญาต” ให้ประธานาธิบดีไล่ออกหรือปลดเขาจากตำแหน่ง
ข่าวแนะนำ