TNN คลังสั่งสรรพสามิตศึกษา “ภาษีไขมัน-โซเดียม” หวังปรับพฤติกรรมคนไทย

TNN

เศรษฐกิจ

คลังสั่งสรรพสามิตศึกษา “ภาษีไขมัน-โซเดียม” หวังปรับพฤติกรรมคนไทย

คลังสั่งสรรพสามิตศึกษา “ภาษีไขมัน-โซเดียม” หวังปรับพฤติกรรมคนไทย

รมช.คลัง สั่งสรรพสามิต ศึกษาแนวทางเก็บ “ภาษี ไขมัน-โซเดียม” หวังปรับพฤติกรรมคนไทย ลดเค็มลงร้อยละ 30

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กรมสรรพสามิต เป็นกลไกและรักษาสมดุลด้านภาษีระหว่างการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน ธรรมาภิบาล 


และใช้กลไกภาษีเพื่อสนับสนุนการแพทย์เชิงป้องกัน ลดการบริโภคอาหารที่เป็นโทษต่อสุขภาพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี  โดยในส่วนภาษีความหวาน ที่มีการจัดเก็บอยู่แล้ว ให้ดำเนินการจัดเก็บภาษีความหวานแบบผสมต่อเนื่อง และเข้าสู่ระยะ 4 ตามกำหนดเวลา


นอกจากนี้ ยังให้กรมสรรพสามิตศึกษาพิจารณากลไกการเก็บภาษีโซเดียม หรือภาษีความเค็มในสินค้าบางประเภทที่ไม่อยู่ในสินค้าควบคุม เช่น ขนมขบเคี้ยว หรือสินค้าไม่จำเป็นจะโดนเก็บก่อนตามสัดส่วนความเค็ม ขณะเดียวกันสินค้าที่กระทบต่อประขาชนส่วนใหญ่ หรือเป็นสินค้าปัจจัยสี่ต่อผู้มีรายได้น้อยก็ต้องคำนึงไม่ให้ประชาชนกระทบ


ด้านภาษีไขมัน ถือเป็นเรื่องใหม่ จึงให้สรรพสามิตไปเริ่มศึกษา ในสินค้าบางประเภท โดยดูว่ามีไขมันดีหรือไขมันไม่ดี มีเป้าหมายเพื่อต้องการปรับพฤติกรรมให้คนไทยลดการบริโภคโซเดียม ความเค็ม และไขมัน ซึ่งตั้งเป้าคนไทยลดบริโภคเค็มลงร้อยละ 30 ภายในปี 68 ขณะเดียวกัน ให้มีระยะเวลาปรับตัวแก่ผู้ประกอบการก่อนกฎหมายมีผลบังคับ


สำหรับภาษีน้ำมัน ให้กำหนดกลไกราคาคาร์บอนในภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 6 ประเภท ซึ่งไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียน โดยคำนวณจากค่าสัมประสิทธิ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเบื้องต้นกำหนดราคาคาร์บอนที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอน 


เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือกระบวนการผลิตที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ โดยต้องไม่ให้กระทบต่อราคาขายปลีกพลังงานแก่ประชาชน


ส่วนภาษีบุหรี่ ให้จัดเก็บภาษีแบบผสมผสาน โดยพิจารณาและศึกษาความเหมาะสมในการปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียว เพื่อลดการบิดเบือนกลไกราคา 


นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า การเก็บแบตเตอรี่ ให้ศึกษาพิจารณาเปลี่ยนจากอัตราคงที่ร้อยละ 8 เป็นอัตราแบบขั้นบันได ภาษีปล่อยมลพิษเยอะจะเก็บภาษีเยอะ ปล่อยภาษีน้อยเสียภาษีน้อย โดยคำนึงถึงปัจจัยอายุการใช้ และค่าพลังงานจำเพาะต่อน้ำหนัก รวมถึงชนิดของแบตเตอรี่ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่สะอาด อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า


ส่วนการเก็บภาษึยานยนต์ ให้ใช้กลไกภาษีกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบอย่างสมดุล ระหว่างรถยนต์ไฟฟ้า สันดาปใช้น้ำมัน รวมถึงไฮบริดจ์ 


ภาพจาก: AFP 


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง