TNN "GWM" ทุ่ม 23,000 ล้าน ดันไทยเป็นฮับแทนจีน l การตลาดเงินล้าน

TNN

เศรษฐกิจ

"GWM" ทุ่ม 23,000 ล้าน ดันไทยเป็นฮับแทนจีน l การตลาดเงินล้าน

GWM ตอกย้ำถึงแผนอยู่ในไทยระยะยาว พร้อมลงทุนเพิ่มเป็น 23,000 ล้านบาท ผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพื่อส่งออก

คณะผู้บริหารของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งนำโดยคุณ ปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ เปิดเผยถึงแผน และกลยุทธ์การทำตลาดในประเทศไทย โดยเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯ ลงทุนในไทยไปแล้วกว่า 12,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปีจากนี้ จะลงทุนเพิ่ม เป็น 23,000 ล้านบาท เพื่อรองรับตลาดที่จะเติบโต โดยจะเป็นการลงทุนในด้านต่าง ๆ เช่น ลงทุนด้านการตลาดสำหรับการสร้างแบรนด์, ลงทุนในโรงงาน, การผลิตรถยนต์โมเดลใหม่ และผลิตแบตเตอร์รี

ทั้งยืนยันว่าจะประกอบธุรกิจในไทย ในระยะยาว โดยมองว่าประเทศไทย เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขยายธุรกิจสู่ระดับโลก ซึ่งบทบาทหลังจากนี้ คือการผลักดันไทย สู่การเป็นศูนย์กลาง(ฮับ) การผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวา สู่ผู้ใช้งานทั่วโลก

จากปัจจุบัน โรงงานในจีนเป็นแหล่งผลิตหลัก ของรถพวงมาลัยขวา ด้วย เพื่อส่งออกไปยังตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวา แต่หลังจากเข้ามาตั้งโรงงานที่จังหวัดระยอง จะมีการย้านฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาจากจีน มาไทย เพื่อผลักดันตามแผน ให้ไทยเป็นฮับของรถยนต์พวงมาลัยขวา ในอนาคต จึงจะมีการย้ายฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวามาที่ไทย เพิ่มมากขึ้น

สำหรับโรงงานในไทย ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 80,000 คันต่อปี ในอนาคตจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 120,000 คันต่อปี แต่การผลิตจริงในปีนี้ อยู่ที่ 10,000 คันต่อปี และปีหน้า จะเพิ่มเป็น 20,000 คันต่อปี ในส่วนนี้จำนวน 10,000 คัน จะเป็นการส่งออก ซึ่งปีนี้ ได้เริ่มมีการส่งออกไปแล้ว คือที่เวียดนาม และ อินโดนีเซีย หลังจากนี้ มีแผนจะขยายไปมาเลเซีย และออสเตรเลีย เพิ่มเติมด้วย

ผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวด้วยว่า การเลือกไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวา เนื่องจากไทยมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค, มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม, มีการเติบโตที่ดี และมีความพร้อมด้านแรงงานมีทักษะ 

สำหรับตลาดในประเทศไทย กรณีมีพาร์ทเนอร์บางรายปิดตัวไป ผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวว่า เกิดจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น หลังจากมีค่ายรถจีนรายอื่น ๆ เข้ามาทำตลาดหลายราย อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ และความพร้อมของผู้ลงทุนแต่ละรายด้วย แต่ส่วนของบริษัทฯ ต้องดูว่า จะดูแลลูกค้าต่อไปอย่างไร และจะให้ความมั่นใจกับลูกค้าต่อไปอย่างไร

ซึ่งยืนยันได้ว่า ในทุกตลาดที่บริษัทฯ เข้าไป และมีพาร์ทเนอร์ปิดตัว ก็จะต้องหาพาร์ทเนอร์รายใหม่เข้ามาดำเนินการแทน เพื่อดูแลลูกค้าของบริษัทฯ ต่อไป ส่วนสิ่งที่จะทำต่อจากนี้สำหรับพาร์ทเนอร์ คงไม่ได้มุ่งเน้นที่จำนวนของพาร์ทเนอร์ แต่จะเน้นว่าทำอย่างไร ที่จะทำให้พาร์ทเนอร์มีความเข้มแข็ง ทั้งในด้านผลประกอบการ และเข้มแข็งในแง่การให้บริการ การดูแลลูกค้า และเข้มแข็งในแง่ของการขาย โดยทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ จะมีการหารือกับพาร์ทเนอร์เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันต่อไป

ด้านเป้าหมายยอดขายในไทย ปีนี้ ได้ลดเป้าหมายจากเดิม ตั้งเป้าไว้ที่ 12,000-13,000 คัน ก็ลดลงเป็น 9,000-10,000 คัน โดยเป็นการปรับลดเป้าหมายตามสภาพการแข่งขันที่สูงขึ้น และสภาพของตลาดที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ทุกค่ายให้มียอดขายลดลง 

ส่วนประเด็นเรื่องสงครามราคา คุณ ปาร์คเกอร์ ฉี ได้แบ่งปันมุมมองสำหรับในตลาดจีน โดยบอกว่า มีความรุนแรงมากกว่าในไทยมาก ซึ่งส่งผลเสียหายและกระทบต่ออุตสาหกรรม แต่นั่น ก็ไม่ได้หมายความว่า กลัว หรือ กังวลต่อการแข่งขัน แต่หมายถึงว่า การแข่งขันจนเกิดสงครามราคา นอกจากราคาจะต่ำลงแล้ว และยังเป็นการบั่นทอนด้านคุณภาพให้ต่ำลงด้วย โดยมองว่า การลดราคา เช่น การออกแคมเปญลดราคาลงมาก ๆ อาจทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น แต่ได้ในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ เอง ไม่มองแค่ในระยะสั้น และหวังว่า ในไทยจะไม่เกิดเหมือนในจีน เพราะไม่ส่งผลดีต่อตลาดและอุตสาหกรรม

สำหรับผลงานของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ หลังทำตลาดในไทยมาเกือบ 4 ปีแล้ว คุณ ปาร์คเกอร์ ฉี กล่าวว่า ให้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 6 คะแนนจากเต็ม 10 โดย 1-2 ปีแรก ได้คะแนนสูงถึง 8 คะแนน แม้จะเจอกับวิกฤต ทั้งแบตเตอรีราคาแพง และปัญหาด้านโลจิสติกส์ แต่บริษัทฯ ก็สามารถนำประสบการณ์ใหม่ ๆ มานำเสนอให้กับลูกค้าคนไทย และทำให้ตลาดไทย มีรถยนต์พลังงานรูปแบบใหม่เข้ามาในตลาด รวมถึงการที่บริษัทฯ ลงทุนซื้อโรงงานในไทย ก็เป็นอีกเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการ เข้ามาทำตลาดในไทยในระยะยาว

แต่อย่างไรก็ดี อีก 2 ปีให้หลังมานี้ ตนให้คะแนะเพียง 5-6 คะแนนเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่าการแข่งขันในตลาดไทยสูงมากจริง ๆ เพราะมีค่ายรถยนต์จากจีนเข้ามาทำตลาดในไทยจำนวนมากขึ้น รวมถึงสภาพตลาดรถยนต์โดยรวม ก็ชะลอตัวลง จึงกลายเป็นว่าต้องเจอความท้าทายในหลายด้านพร้อมกัน ทำให้ยอดขายลดลง แต่ก็คิดว่าสามารถทำความสำเร็จได้ดีกว่านี้ในอนาคต จึงต้องพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน 

ผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ บอกว่า การที่ผลงานออกมายังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ทำให้ต้องมีการปรับปรุงกลยุทธ์การทำธุรกิจในไทย เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย

กลยุทธ์ ด้านผลิตภัณฑ์ จะมุ่งเน้นการปรับตำแหน่งการตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น และมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยให้มากขึ้น ในราคาที่เหมาะสม และแข่งขันได้ โดยในงาน Motor Expo 2024 ปลายปีนี้ จะนำนวัตกรรมมาจัดแสดงถึง 2 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม SUV ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และปีหน้า (2568) เตรียมจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในไทย ทั้ง HAVAL H6 HEV และ PHEV ไมเนอร์เชนจ์ รวมถึง GWM TANK ในเครื่องยนต์ดีเซล

กลยุทธ์ ด้านบริการหลังการขาย ตั้งเป้าหมายจะส่งมอบบริการหลังการขายที่รวดเร็ว ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นการบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการสร้างศูนย์กระจายอะไหล่ขนาดใหญ่สำหรับตลาดต่างประเทศ ซึ่งที่จีนมีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร รวมถึงการเพิ่มจำนวนการเก็บชิ้นส่วนอะไหล่กว่า 1,000 SKU ในประเทศไทย

กลยุทธ์ ด้านการขาย จะมุ่งสร้างการเติบโตและการบริหารเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายเพื่อการขายที่มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการทำงานพูดคุยกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาการดำเนินงานให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันที่สูงขึ้นของตลาด และจะขยายเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีจำนวน 70 แห่งทั่วประเทศ 

ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เดินหน้าขยายธุรกิจฟลีทให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าองค์กร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งบริษัทรถเช่า ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก และการเข้าร่วมประมูลของหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจน จะขยายธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วภายใต้ จีดับบลิวเอ็ม เซอร์ติไฟด์ พรี-โอน (GWM Certified Pre-Owned (CPO) ซึ่งเป็นบริการซื้อขายรถยนต์ใช้แล้วที่ผ่านการรับรองคุณภาพจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหารถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีที่ได้มาตรฐานอีกด้วย

และสุดท้าย กลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์ จะมุ่งสร้างความแตกต่างไปสู่การเป็นแบรนด์ในใจของคนไทยและทั่วโลก และเน้นการสร้างแบรนด์ในระยะยาวโดยมีผู้ใช้เป็นศูนย์กลางผ่านกิจกรรมระดับโลกต่าง ๆ อีกมากมาย

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง