ยุโรปเก็บภาษีรถอีวีจีนเพิ่ม ไม่กระทบไทย
ยุโรปเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีนร้อยละ 35.3 ย้ำไม่กระทบไทยเนื่องจากไม่มีการส่งออก ยอดผลิตยังน้อยมาก 10,000 คัน ในปี 2567
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้ลงมติเห็นด้วยการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิต หรือมีส่วนประกอบจากประเทศจีน ซึ่งสามารถมีอัตราภาษีที่สูงสุดได้ถึงร้อยละ 35.3 ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย เนื่องจากว่า ปัจจุบันยานยนต์ไฟฟ้าของไทยยังไม่มีผลิตเพื่อการส่งออก ส่วนใหญ่ผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศ และนำเข้ามาขายภายในประเทศเท่านั้น โดยคาดการณ์ว่าปี 2567 นี้ยอดผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจะมีประมาณ 10,000 คัน ขณะที่ยอดจดทะเบียนคาดว่าจะมีประมาณ 76,000 คัน
ทั้งนี้ เมื่อดูภาพรวมการส่งออกรถยนต์ไปในตลาดโลก โดยส่วนใหญ่ไทยส่งออกรถยนต์ไปตลาดเอเชีย ร้อยละ 27-28 ออสเตรเลียร้อยละ 30-31 มิสเดิลอีสร้อยละ 18 ส่วนในตลาดยุโรปปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 7 ของยอดส่งออกภาพรวมทั้งหมด โดยลดลงจากอดีตที่เคยส่งออกไปประมาณร้อยละ 17
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากประเทศไทยถูกตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษี หรือ GSP และรถยนต์กระบะนำเข้าจากไทยขึ้นภาษีปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 9-10 จากเดิมร้อยละ 5 ทำให้การส่งออกรถยนต์ในภาพรวมของไทยไปตลาดยุโรปจึงมีสัดส่วนที่น้อยลง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทยยังต้องเจอปัญหาจากผลกระทบสงครามอิสราเอล-ฮามาส ปัญหาทะเลแดง ซึ่งมีผลต่อการขนส่งทำให้เกิดการชะลอตัวและลดลง ส่วนปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนไม่กระทบ เนื่องจากเรานำเข้าวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตในการส่งออกจึงได้รับผลกระทบน้อย ส่วนยอดผลิต 7 เดือน (มกราคม-กรกฎาคม 2567) รวมแล้วผลิตได้ 886,069 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.28 ส่วนยอดขายภายในประเทศ รถยนต์มียอดขาย 354,421 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 23.71
ขณะที่การส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 602,567 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 5.39 สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนกรกฎาคม 2567 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 8,332 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วร้อยละ 20.68
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ