ส่งออกรถร่วง เอกชนชี้บาทแข็งซ้ำเติม/

สำหรับตลาดรวมในประเทศ 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.67) ปิดยอดขาย 430,00 คัน ลดลงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่าทั้งปีจะทำได้ประมาณ 600,000 คันซึ่งเป็นการขายที่ต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ของตลาดรถยนต์ไทย ในขณะที่ตลาดในประเทศร่วงร้อยละ 25 ยอดส่งออกลดลงร้อยละ 4.9 สอดคล้องกับยอดผลิตรถยนต์ที่ยังลดลงร้อยละ 20

ด้าน นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่า และความขัดแย้งตะวันออกกลาง คาดว่าจะขยายวงกว้างขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับตลาดส่งออกของไทย และเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากตะวันออกกลาง ถือเป็นหนึ่งตลาดที่มีความสำคัญกับไทย

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ความขัดแย้งตะวันออกกลางในช่วงที่ผ่านมา หรือระยะหลังนี้ ขยายการสู้รบมากขึ้น ทำให้การส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วนเริ่มได้รับผลกระทบ โดยมีการส่งออกลดลงจากจำนวนเที่ยวเรือที่มารับลดลง และค่าขนส่งสูงขึ้น

โดยตัวเลขการส่งออกที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาเรื่องพื้นที่ในการเดินเรือไม่เพียงพอ และล่าช้า รวมทั้งปัญหาสิ่งสกปรกในท่าเรือที่ติดในรถกระบะที่เตรียมขับขึ้นเรือ  ทำให้การผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 12.92  ซึ่งกระทบกับตลาดเช่น ออสเตรเลีย แอฟริกา ยุโรป และปัญหาสงครามอิสราเอลกับฮามาส ที่ขยายวงกว้าง เราต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ตั้งเป้ายอดผลิตรถยนต์ในประเทศปี 2567 เอาไว้ 1 ล้าน 7 แสนคัน แบ่งเป็น ส่งออก 1 ล้าน 1 แสน 5 หมื่นคัน และผลิตเพื่อขายในประเทศ 550,000 คัน

ที่มา TNN