TNN ธนาคารโลกคงจีดีพีไทยปีนี้โตร้อยละ 2.4

TNN

เศรษฐกิจ

ธนาคารโลกคงจีดีพีไทยปีนี้โตร้อยละ 2.4

ธนาคารโลกคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 2.4 ส่วนในปี 2568 ปรับคาดการณ์เพิ่มเป็นร้อยละ 3 และคาดเงินเฟ้อไทยปีนี้ต่ำสุดในภูมิภาค หลุดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธปท.

ธนาคารโลก (World Bank) เปิดตัวรายงานอัพเดทเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก: การจ้างงานและเทคโนโลยี ฉบับเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567  โดยในส่วนของประเทศไทยพบว่า ยังคงคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ หรือ GDPไทยในปี 2567 จะอยู่ที่ร้อยละ 2.4 ร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 1.9 ในปี 2566 โดยการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก โดยได้รับการสนับสนุนจากการเร่งดำเนินการงบประมาณและการส่งออกสินค้า การท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ที่ยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในปีนี้


ด้านการท่องเที่ยว จะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดได้ในกลางปี 2568 ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปของดอลลาร์สหรัฐปีนี้คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 2.4 เนื่องจากการค้าโลกที่เอื้ออำนวยแม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) จะชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในภูมิภาคที่ร้อยละ 0.7 ซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย


ทั้งนี้ ธนาคารโลก ยังคาดว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเร่งตัวขึ้นเติบโตได้ร้อยละ 3.0  โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนที่ฟื้นตัว โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนก.ค. 2567 ธนาคารโลกได้ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 2.4  ส่วนปี 2568 ขยายตัวได้ร้อยละ 2.8


ด้านวิจัยกรุงศรี รายงานบทวิเคราะห์เศรษฐกิจล่าสุด (8 ต.ค. 67) ประเมินแรงส่งจากการใช้จ่ายในประเทศที่แผ่วลงในช่วงไตรมาส 3 อาจกลับมากระเตื้องขึ้นได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการโอนเงินให้กับกลุ่มเปราะบางรายละ 10,000 บาท วงเงินรวม 145,000 ล้านบาท โดยภาครัฐดำเนินการโอนแล้วในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะส่งผลบวกต่อ GDP ปีนี้ร้อยละ 0.2 ถึง 0.3 


อย่างไรก็ตาม วิจัยกรุงศรียังคงประมาณการอัตราการเติบโตของ GDP ไทยในปี 2567 ไว้ที่ร้อยละ 2.4 เนื่องจากผลบวกจากมาตรการข้างต้นอาจถูกลดทอนด้วยผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ 


โดยในกรณีฐาน (Base Case) วิจัยกรุงศรีคาดว่าผลกระทบจากน้ำท่วมจะทำให้ มีมูลค่าความเสียหายคิดเป็นประมาณร้อยละ 0.27 ของ GDP และหากกรณีเลวร้ายสุด (Worst case) มีมูลค่าความเสียหายคิดเป็นร้อยละ 0.34 ของ GDP


นอกจากนี้วิจัยกรุงศรีคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะลดลงสู่ระดับร้อยละ 2.00  ภายในสิ้นปี 2568


ที่มา TNN

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง