"ซักเคอร์เบิร์ก"มหาเศรษฐีเบอร์ 2 ของโลก

ตามรายงานดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.)ที่ผ่านมา มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของซักเคอร์เบิร์กพุ่งแตะ 2.062 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เหนือกว่าเบซอสที่มีมูลค่า 2.051 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี  รายงานว่า ความรวยของผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก รายนี้ยังตามหลัง อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา อยู่ราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ทรัพย์สินของซักเคอร์เบิร์กเพิ่มขึ้นถึง 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากที่สุดในบรรดา 500 อันดับคนรวยที่บลูมเบิร์กจัดอันดับ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการถือหุ้น 13% ในเมตา

ทั้งนี้ ราคาหุ้นเมตาพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 582.77 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี เพิ่มขึ้นราว 68% จากช่วงต้นเดือนม.ค.ที่เคยอยู่ที่ 346.29 ดอลลาร์สหรัฐ

ความสำเร็จของเมตาในปี 2567 เป็นผลมาจากการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ค. บริษัทรายงานยอดขายไตรมาส 2 เติบโตถึง 22% แตะ 3.907 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนับเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกันที่มีการเติบโตของรายได้เกิน 20%

นอกจากนี้ ระบบโฆษณาออนไลน์ของเมตาเจอปัญหาครั้งใหญ่เมื่อปี 2564 เนื่องจากแอปเปิ้ล (Apple) อัปเดตความเป็นส่วนตัวของ iOS ที่ทำให้ความสามารถในการติดตามผู้ใช้ข้ามเว็บไซต์ลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของเมตาถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565

นักลงทุนตอบรับในเชิงบวกต่อแผนลดต้นทุนนี้ ขณะที่ธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของเมตาเริ่มฟื้นตัวและได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายด้านโฆษณาดิจิทัลขนาดใหญ่จากร้านค้าปลีกที่มีความเชื่อมโยงกับจีนอย่างเทมู (Temu) และชีอิน (Shein)

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมตาได้เปิดตัวแว่นตา AR รุ่นโอไรออน (Orion) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ทดลองใช้งานแว่นต้นแบบ

ที่มา ซีเอ็นบีซี