ดีเดย์! "เก็บเงินปลายทาง" เปิดเช็กได้ สินค้าไม่ตรงปก-ขอคืนเงินใน 5 วัน
เริ่มแล้ว! บังคับใช้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคกรณี "เก็บเงินปลายทาง" หากสินค้าไม่ตรงปก-ชำรุด ให้ปฏิเสธการรับและไม่ต้องจ่ายเงิน แต่กรณีจ่ายไปแล้วให้แจ้งขอเงินคืนได้ภายใน 5 วัน
น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการให้บริการขนส่งและแพลตฟอร์มออนไลน์ รวม 7 แห่ง ร่วมแถลงข่าวมาตรการส่งดี (Dee – Delivery) การให้บริการขนส่งสินค้า โดยเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ.2567
น.ส.จิราพร กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีการจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยมักใช้บริการเรียกเก็บเงินปลายทาง เพราะมีความสะดวก และสั่งซื้อได้ง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจบางรายหวังใช้ช่องทางนี้หลอกลวงผู้บริโภค เช่น ส่งสินค้าไม่ตรงปก มีการเรียกเก็บเงินโดยไม่ได้สั่งสินค้า สินค้าชำรุด บกพร่อง และสูญหาย บางคนไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้ ทำให้เกิดปัญหาการขอคืนเงิน และสร้างความเดือดร้อนต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ สคบ.ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ.2567 หรือเรียกว่ามาตรการส่งดี มีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ต.ค.นี้ ซึ่งมาตรการนี้จะคุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเกิดความเสียหายจากการสั่งซื้อสินค้าและรับบริการขนส่งจากผู้ประกอบธุรกิจ
นอกจากนี้ผู้บริโภคจะได้รับการชดเชยเยียวยาความเสียหายด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม ช่วยปกป้องผู้บริโภคจากผู้หลอกลวงจำหน่ายสินค้าไม่ตรงปก สินค้าชำรุด หรือหลอกส่งสินค้า โดยสามารถปฏิเสธการรับสินค้าและไม่ต้องชำระเงินได้ หรือหากผู้บริโภคเปิดกล่องสินค้าภายหลังจากที่ชำระเงินไปแล้ว พบปัญหา สินค้าไม่ตรงปก ชำรุด ไม่ได้สั่ง สามารถแจ้งขอเงินคืนได้ภายใน 5 วัน นับตั้งแต่วันได้รับสินค้า
ประกาศฉบับนี้ ยังครอบคลุมถึงการให้บริการของบริษัทขนส่ง หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีเหตุตามที่แจ้งจริง บริษัทขนส่งจะต้องคืนเงินทั้งหมดให้กับผู้บริโภคภายใน 15 วัน
ข่าวแนะนำ