TNN กกร.นัดถกธปท.ดูแลค่าเงิน-ลดดอกเบี้ย

TNN

เศรษฐกิจ

กกร.นัดถกธปท.ดูแลค่าเงิน-ลดดอกเบี้ย

กกร.เตรียมส่งหนังสือ ถกผู้ว่าธปท. เรื่องภาพรวมเศรษฐกิจ ดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่า ชี้ควรอยู่ที่ระดับ 34.0-34.5 บาทต่อดอลลาร์ฯ พร้อมเสนอลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ลงร้อยละ 0.25

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ เตรียมส่งหนังสือไปผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เพื่อขอหาเรื่อง 2 เรื่อง คือ 1.ภาพรวมเศรษฐกิจ ดูแลค่าเงินบาท 2.การลดดอกเบี้ย เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการส่งออก โดยปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าจาก 36.8 มาที่ 32.3 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา หรือราวร้อยละ 12 เป็นการแข็งค่าที่มากกว่าค่าเงินอื่นในภูมิภาค ซึ่งกลายเป็นปัจจัยลบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก 


ทั้งนี้ หากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีอาจทําให้รายได้ในรูปเงินบาทของผู้ส่งออกกระทบได้ราว 180,000-250,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามมองว่า ค่าเงินบาทปีนี้ควรแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 34.0-34.5 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับที่ธุรกิจแข่งขันได้ โดยมองว่าควรให้ความสำคัญกับการดูแลค่าเงินไม่ให้แข็งค่าหรือผันผวนเร็วจนเกินไป ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 2567 จะขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 2.2 ถึงร้อยละ 2.7  ส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ถึง 2.5 เงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 0.5 ถึง 1 โดยมีแรงสนับสนุนจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงิน 10,000 บาท และการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบต่างๆ จากน้ำท่วม


ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. ช่วงปลายปีนี้  กกร.จะเสนอ ให้ธปท.เร่งพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยที่สะท้อนอยู่แล้วในตลาดการเงินล่วงหน้า (Forward Market) โดยปัจจุบันตลาดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงอย่างน้อยร้อยละ 0.25 ภายในปีนี้ และอีกประมาณร้อยละ 0.25 - 0.5 อีกภายในปีหน้า ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหลัก ได้อย่างรวดเร็ว และพิจารณาทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำลังอยู่ในช่วงการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


ที่มา TNN

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง