คาดยอดขายรถในสหรัฐฯร่วง 25,000 คัน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ อาจลดลงมากถึงปีละ 25,841 คัน และราคาน่าจะขยับสูงขึ้น หากข้อเสนอห้ามใช้ซอฟต์แวร์-ฮาร์ดแวร์ของจีนในรถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเดินหน้าต่อไป

โดยประเมินว่า ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ และผู้ผลิตอื่น ๆ ที่ขายรถยนต์ในสหรัฐฯ อาจแข่งขันในตลาดโลกได้น้อยลง เนื่องจากราคาของรถยนต์ค่อนข้างสูง ซึ่งมาตรการใหม่ดังกล่าวอาจส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ลดลงระหว่าง 1,680-25,841 คันต่อปี 

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เสนอแผนห้ามใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จีน สำหรับยานยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและขับขี่อัตโนมัติ (connected and autonomous vehicle-CAV) ซึ่งจะทำให้รถยนต์จากจีนเกือบทั้งหมดไม่สามารถเข้าตลาดสหรัฐฯ ได้ ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และยังรวมถึงรถจากรัสเซียด้วย

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า มาตรการล่าสุดที่มุ่งลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ จะกระทบต่อการนำเข้ารถยนต์จากจีนหรือรัสเซียเข้าไปในตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าระหว่าง 1.5-2.3 พันล้านดอลลาร์ 

มาตรการห้ามนี้จะมีผลบังคับใช้กับรถในปี 2570 และการห้ามใช้ฮาร์ดแวร์จะมีผลบังคับใช้ในปี 2573 รัฐบาลสหรัฐฯ จะเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเป็นเวลา 30 วัน ก่อนสรุปผล

ขณะที่ “เจเนอรัล มอเตอร์ส” (General Motors-GM) และ “ฟอร์ด มอเตอร์” จะต้องยุติการนำเข้ารถยนต์จากจีนมายังสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมายดังกล่าว ซึ่ง GM ขาย “บูอิค เอ็นวิชัน” (Buick Envision) ด้าน “ฟอร์ด” ขายรุ่น “ลินคอล์น นอติลุส” (Lincoln Nautilus) ที่ประกอบในจีน