กันแดดมิสทิน ครองตลาดจีน แซงแบรนด์ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส
สินค้ากันแดดของไทย ที่สามารถไปบุกตลาดจีน จนมียอดขายอันดับ 1 แซงสินค้าจากญี่ปุ่น ฝรั่งเศส พาไปดูว่า เหตุใจสาวๆ ชาวจีนจึงชื่นชอบกันแดดไทยเป็นพิเศษ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของไทย ณ เมืองหนานหนิง ประเทศจีน รายงานถึง ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในจีน พบว่าเติบโตสูงมาก โดยฤดูร้อนของจีน เริ่มต้นในเดืนอพฤษภาคม-สิงหาคม ซึ่งพบว่ามีอากาศค่อนข้างร้อนมากติดต่อกันมาหลายปี จนผู้คนชาวจีนต้องหาวิธีป้องกันแสงแดดจนถูกขนานนามว่า “สงครามกันแดด”
ชาวจีนให้ความสำคัญกับการป้องกันแสงแดด ด้วยเหตุผลหลักสองประการคือ
1.จีนมีระดับแสงแดดที่สูง โดยระดับแสงแดดของจีนแตกต่างจากประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา มาตรฐานการวัดระดับแสงแดดสากลที่ใช้กันทั่วไป คือ ดัชนี UV พบวา จีน มีดัชนี UV สูงสุดที่ 11+ ส่วนแคนาดาและในยุโรป ยกเว้นบางประเทศในยุโรปตอนใต้ ดัชนี UV สูงสุดอยู่ระหว่าง 5 ถึง 10
2.ค่านิยมของสีผิวของคนจีน ซึ่งคนจีนมักพูดว่า “ผิวขาวเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้คุณดูดีได้” ค่านิยมในจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกถือว่าคนผิวขาวนั้นสวย และผิวขาวยังเป็นมาตรฐานด้านความงามที่หลายๆ คนติดตามในโลกโซเชียล มีการโพสต์นับพันที่แชร์ประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง เพื่อความขาวกระจ่าง จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งต่างๆ ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนเพิ่มขึ้น
มีนักวิจัยเปรียบเทียบโฆษณาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ตีพิมพ์ในนิตยสารแฟชั่นระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา พบว่าสีผิวของนางแบบที่ปรากฏในโฆษณาจีนนั้นมีความขาวกว่านางแบบในโฆษณาอเมริกาอย่างมาก นอกจากนี้โฆษณานิตยสารจีน ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง มีสัดส่วนร้อยละ 24 ของโฆษณาทั้งหมด ขณะที่โฆษณาในนิตยสารสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.3
ตรงนี้ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์และธุรกิจเกี่ยวกับการป้องกันแสงแดดในตลาดจีน เติบโตสูงมาก “ทาง iMedia Research คาดการณ์ว่าตลาดเครื่องสำอางครีมกันแดดของจีนที่มีมูล่า 14,800 ล้านหยวนในปี 2566 จะขยายตัวเป็น 22,400 ล้านหยวนในปี 2571” ซึ่งเป็นผลจากความต้องการของผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์กันแดดมีความหลากหลายมากขึ้น
ข้อมูลการเติบโตเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างมากของตลาดกันแดดในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความกระตือรือร้นของผู้บริโภคจีนมีความต้องการอย่างสูงกับผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดอีกด้วย
ถ้าไปดูพบว่า ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด 5 อันดับแรกที่นิยมในจีนในปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากต่างประเทศ และอันดับ 1 เป็นสินค้าแบรนด์ไทย Mistine มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 11.55 ราคาขายหลอดละ 107หยวน(530 บาท)
2. Anessa จากญี่ปุ่น มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 8.21 ราคาขายหลอดละ 191 หยวน (950 บาท)
3. Winona(วิโนน่า) จากจีน มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 4.17 ราคาหลอดละ 150 หยวน
4.Lancôme จาก ฝรั่งเศส ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 4.09 ขายอยู่หลอดละ 350 หยวน หลอดละกว่า 1,700 บาท แพงสุดใน 5 อันดับแรก
5. L’Oreal จาก ฝรั่งเศส ส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ 2.6 ขายหลอดละ 126 หยวน
ถ้าไปดูตลาดผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดไม่ได้เป็นเพียงตลาดสำหรับผู้หญิงเท่านั้น พบว่า ความต้องการของผู้บริโภคสำหรับเด็กและผู้ชายก็มีอัตรากำลังเพิ่มขึ้นด้วย และตลาดผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีธุรกิจผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในจีนความต้องการสูง
ข้อมูล QuestMobile แสดงให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้าชายปัจจุบันมีกำลังซื้อสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมความงาม ในแง่ของความต้องการของผลิตภัณฑ์ โดยข้อมูลจากแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายปี 2566 และการวิเคราะห์อุปสงค์และอุปทานของตลาด ของ Zhongyan.com แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายอายุ 18-25 ปีมีความนิยมอย่างมากในแบรนด์เครื่องสำอางรุ่นใหม่ และผู้ชายกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด
นอกจากนี้ กลุ่มพ่อแม่คนรุ่นใหม่ ทำให้ธุรกิจผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในจีนเติบโตขึ้น จากข้อมูล MAT รายงานเดือนมีนาคม 2567 พบว่าความต้องการของผลิตภัณฑ์กันแสงแดดของกลุ่มเด็กเพิ่มขึ้น ร้อยละ 84
ในด้านของเครื่องสำอางครีมกันแดด อย่างที่เราทราบกันดีว่าเครื่องสำอางครีมกันแดดมีบทบาทสำคัญในการปกป้องสุขภาพผิวของผู้บริโภคในระหว่างอยู่กลางแจ้ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความต้องการดูแลผิวของผู้บริโภคได้รับการยกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความงามและการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล เครื่องสำอางครีมกันแดดได้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีและผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดนั้นมีความหลากหลายขึ้น ยังขยายบทบาทและประสิทธิภาพของครีมกันแดด ข้อมูลจาก iMedia Research พบว่าผู้บริโภคให้ความสนใจด้านคุณสมบัติและประสิทธิภาพอื่นๆ เมื่อเลือกเครื่องสำอางกันแดด และชอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติด้านความชุ่มชื้น ร้อยละ 58 สารต้านอนุมูลอิสระร้อยละ 52 และผ่อนคลาย ร้อยละ 47 และไวท์เทนนิ่งร้อยละ 38
ถ้าไปเจาะลึกถึงกลยุทธ์ MISTINE แบรนด์เครื่องสำอางไทย ที่มียอดขายในจีนสูงมาก โดยเฉพาะ “ครีมกันแดดฝาสีเหลือง” กวาดยอดขายปีละไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี จากยอดขายเครื่องสำอาง MISTINE ในจีนกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มิสทินยังอยู่ในอันดับ 2 มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 6.6 เป็นรองสินค้าจากแบรนด์ญี่ปุ่น ANESSA ของญี่ปุ่น ที่อยู่อันดับ 1 มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 11.5 และยังทิ้งห่างจาก Lancôme จากฝรั่งเศสไม่มาก โดย Lancômeมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 5.3 และ โดย 2 แบรนด์จากญี่ปุ่นและฝรั่งเศสนี้เคยเป็นเจ้าตลาดครีมกันแดดในจีนมายาวนาน
ในปีหลังๆ ครีมกันแดด MISTINE เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มสาวจีนมากขึ้น เพราะถ้าเทียบราคาแล้วมิสทิน “ถือว่าถูกและดี” กว่าสินค้าจากญี่ปุ่นและฝรั่งเศส(กราฟฟิก สินค้าไทยครองตลาดกันแดดจีน)
ด้ยยคุณสมบัติเหมือนกัน แต่ราคาถูกว่ากันครึ่งหนึ่ง คนจีนบางคนมาลองซื้อ ลองใช้ แล้วติดใจจึงเกิดการใช้ต่อ และแนะนำกันต่อๆ กันมา นอกจากนี้คนจีนยังเชื่อมั่นสินค้า “Made in Thailand” ก่อนหน้านี้ที่มิสทินยังไม่ไปตั้งโรงงานในจีน เครื่องสำอางมิสทินเป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยมของคนจีน
นอกจากนี้ MISTINE ทำการตลาดในจีนอย่างหนักในช่วงหลายปี ล่าสุดดึงดาราดังของจีน “จ้าวลู่ซือ” มาเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ยิ่งทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น
ตลาดผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในจีนนั้นมีศักยภาพมหาศาลและยังมีโอกาสสำหรับสินค้าไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและครีมกันแดด ซึ่งสินค้าไทยแบรนด์ไทย Mistine สามารถแข่งขันได้ดีในตลาดจีน ตรงนี้น่าจะเป็นโอกาสให้แบรนด์ไทยอื่นๆ สามารถศึกษาแนวทางการทำตลาดของบริษัทที่ประสบความสำเร็จเพื่อต่อยอดธุรกิจ
ข่าวแนะนำ