TNN จับตาหนี้เสียบ้านลามราคา 10-50 ล้าน

TNN

เศรษฐกิจ

จับตาหนี้เสียบ้านลามราคา 10-50 ล้าน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จับตาหนี้เสียบ้านลามราคา 10-50 ล้านบาท แบงก์เข้มกู้ 3 ล้านบาท ต้องมีเงินเดือน 50,000 บาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านที่ปล่อยโดยธนาคารพาณิชย์จะขยายตัวไม่เกินร้อยละ 1.2 เทียบกับช่วงเดียวกับปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตรายปีของสินเชื่อบ้านระบบแบงก์ที่ต่ำที่สุดในรอบ 23 ปี เนื่องจากปัญหาด้านรายได้และภาระหนี้สินสูงซึ่งกระทบความสามารถในการก่อหนี้ก้อนใหญ่ของครัวเรือน


นอกจากนี้ ยังมองทิศทางตลาดสินเชื่อบ้านยังติดกับดักปัญหาหนี้ที่ดัน NPLs เพิ่มขึ้น โดยมีประเด็นติดตามสำคัญคือ 1.คุณภาพหนี้อาจเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้น  โดยคาดการณ์ว่าสัดส่วน NPLs สินเชื่อบ้านของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยอาจเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับร้อยละ 3.90 ของสินเชื่อรวม เทียบกับร้อยละ 3.71 ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 ตามสัญญาณสะท้อนปัญหาการด้อยคุณภาพของหนี้ ในบ้านระดับ 10 ล้านบาท ที่เริ่มขยับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 รวมไปถึงหนี้ในกลุ่มบ้านระดับราคา 10-50 ล้านบาทที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน


2.สินเชื่อใหม่ยังคงเน้นกลุ่มตลาดกลาง-บน และตลาดรีไฟแนนซ์มากขึ้น โดยหากประเมินจากความสามารถในการกู้ยืม เทียบกับค่าเฉลี่ยราคาบ้านแนวราบและอาคารชุดล่าสุดนั้น พบว่า ผู้กู้จะต้องมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสำหรับสินเชื่อปล่อยใหม่ ราว 50,000 บาทต่อเดือน  กรณีสินเชื่อใหม่สำหรับอาคารชุดที่สมมุติให้มีราคาราว 3 ล้านบาท และ 76,000 บาทต่อเดือน ในกรณีสินเชื่อใหม่สำหรับบ้านแนวราบ (รวมการกู้ร่วม) ที่สมมุติให้มีราคาราว 4 ล้าน 6 แสนบาท ซึ่งการคำนวณเบื้องต้นนี้ ยังไม่รวมกรณีที่ผู้กู้มีภาระหนี้อื่นๆ ร่วมด้วย โดยหมายความว่า รายได้เฉลี่ยต่อเดือนจะต้องเพิ่มสูงขึ้นอีก 


3.มาตรการดูแลหนี้ยั่งยืน อาจมีผลต่อการก่อหนี้ก้อนใหญ่เพิ่มเติม อาทิ เกณฑ์ Responsible Lending และ DSR ที่ตามแผนการเดิมน่าจะนำมาทยอยใช้กับสินเชื่ออุปโภคบริโภคกลุ่มบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลในปี 2568  หมายความว่า โดยทั่วไปแล้วกรณีของลูกค้าที่รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน หากลูกค้ามีภาระหนี้ก้อนเล็กดังกล่าวจนใกล้เต็มระดับที่กำหนดไว้ว่าจะต้องไม่เกินร้อยละ 60 ของรายได้ 


ที่มา TNN

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง