สรท. คาดบาทแข็งทำสูญรายได้ 5 หมื่นล.
สรท. ประเมิน "บาทแข็ง” ทำผู้ส่งออกสูญรายได้ 50,000 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมชง 3 ข้อเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือทั้งคุมค่าเงินบาท-ออกซอฟต์โลน-ชะลอขึ้นค่าแรง
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยประเมินผลกระทบเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าในปัจจุบัน ว่า กรณีที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ส่งผลกระทบอย่างน้อย 2 เรื่องหลัก นั่นคือ การส่งมอบสินค้า และคำสั่งซื้อ หรือออเดอร์ใหม่ ส่วนแรก คือ การส่งมอบสินค้า มองว่า ผลกระทบเกี่ยวกับการส่งมอบสินค้า จะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินดอลลาร์เป็นเงินบาท โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตร และกลุ่มอาหาร จะเป็นกลุ่มที่รับผลกระทบอย่างสูง โดยผู้ประกอบการ SME และผู้ส่งออกบางรายอาจต้องประสบปัญหาขาดทุน ซึ่งจากการประเมินมูลค่าการสูญเสียจะมีถึงเดือนละ 50,000 ล้านบาท
ส่วนที่สอง คือ คำสั่งซื้อ หรือออเดอร์ใหม่ จากกรณีค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการบางราย ตัดสินใจหยุดรับออเดอร์จากต่างประเทศ เช่น กลุ่มสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมอาหาร เพราะกังวลว่า อาจจะเกิดความไม่คุ้มค่า และกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดส่งออกลดลง โดยคาดว่า กรณีนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
ขณะที่ ประเด็นเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางเรือ นายชัยชาญ มองว่า ปัจจุบันค่าระวางเรือปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากภาคการผลิตทั่วโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักซบเซา ทั้ง จีน ยุโรป และสหรัฐฯ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ยังคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และยังอยู่ในคงที่ในระดับต่ำ
ดังนั้นภาคเอกชนจึงมีข้อเสนอขอให้ภาครัฐช่วยเข้ามาช่วยเหลือ 3 เรื่องหลัก ดังนี้
1.ขอให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบในแง่ของการรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน ให้อยู่ในระดับ 35 - 36 บาทต่อดอลลาร์ เหมือนต้นปีที่ผ่านมา
2.พิจารณาเรื่องซอฟต์โลนในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ได้รับผลกระทบเรื่องค่าเงินบาท ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
3.ชะลอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ เพราะเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ อีกทั้งผู้ผลิตและผู้ส่งออกต้องแบกรับภาระเรื่องต้นทุนการผลิต
ข่าวแนะนำ