OECDขึ้นคาดการณ์ศก.โลกโตร้อยละ 3.2

องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะอยู่ที่ร้อยละ 3.2 ในปีนี้และปีหน้า เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะโตร้อยละ 3.1 ในปีนี้ และไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์เดิมในปี 2568

OECD ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในอนาคต ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อที่ลดลง 

หากราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่องก็มีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปน่าจะลดลงร้อยละ 0.5 จากที่คาดไว้ในปีหน้า

หากเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายของธนาคารกลาง OECD ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะลดลงอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ภายในสิ้นปี 2568 จากปัจจุบันที่อยู่ที่ร้อยละ 4.75%-5.0 และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือร้อยละ 2.25 จากร้อยละ 3.5 ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ OECD คาดการณ์ว่า การเติบโตของ GDP สหรัฐฯ จะชะลอตัวลงจากร้อยละ 2.6 ในปีนี้ เหลือร้อยละ 1.6 ในปีหน้า แม้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยบรรเทาการชะลอตัวได้ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.8 เมื่อเดือนพฤษภาคม

ส่วนเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มจะชะลอตัวแตะที่ร้อยละ 4.9 ในปีนี้ และแตะร้อยละ 4.5 ในปีหน้า เนื่องจากการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลถูกทดแทนด้วยความต้องการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ประกอบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังซบเซา

ขณะที่ยูโรโซน หรือ 20 เขตเศรษฐกิจที่ใช้เงินสกุลยูโร จะช่วยชดเชยการเติบโตที่ชะลอตัวของเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในปีหน้า โดยคาดการณ์การเติบโตของกลุ่มยูโรโซนจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จากร้อยละ 0.7  ในปีนี้ เป็นร้อยละ 1.3 เนื่องจากรายได้เติบโตเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้อ

OECD ยังปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของอังกฤษในปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 1.1 เพิ่มจากเดิมที่คาดไว้ร้อยละ 0.4 และในปีหน้าอยู่ที่ร้อยละ 1.2 จากร้อยละ 1.0 ที่คาดไว้เดิม