TNN ลุยทำกำไร "แกร็บ" ใช้ AI เสริมแกร่ง l การตลาดเงินล้าน

TNN

เศรษฐกิจ

ลุยทำกำไร "แกร็บ" ใช้ AI เสริมแกร่ง l การตลาดเงินล้าน

แกร็บ ประกาศเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตอบโจทย์ความต้องการทั้งอีโคซิสเต็ม และเพื่อสร้างการเติบโตธุรกิจ

คุณ วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), อุปกรณ์ที่เชื่อมด้วยอินเทอร์เน็ต (IoT) และโซลูชันนวัตกรรมบนแอปพลิเคชันของบริษัทฯ เอง (In-app Solutions) เพื่อช่วยตอบโจทย์ และเติมเต็มความต้องการ ของคนในอีโคซิสเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้บริการ, คนขับและไรเดอร์, ผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหาร, รวมถึง สังคมและสิ่งแวดล้อม

ล่าสุด เปิดตัวนวัตกรรม ได้แก่ ฟีเจอร์บัญชีครอบครัว (Family Account) ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันให้กับสมาชิกในครอบครัว โดยผู้ใช้บริการ สามารถเรียกรถ ตรวจสอบตำแหน่งการเดินทาง สื่อสารผ่านแชตกับคนขับ และชำระค่าบริการให้กับสมาชิกในครอบครัวได้สะดวกยิ่งขึ้น

อีกบริการ คือ ฟู้ด ล็อกเกอร์ (Food Lockers) หรือตู้ฝากอาหารดีลิเวอรี ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานออฟฟิศ ที่บางครั้งอาจติดประชุมไม่สามารถลงมารับอาหารได้ทันที ก็สามารถใช้บริการ ฟู้ด ล็อกเกอร์ ได้ ซึ่งปัจจุบันมีติดตั้งแล้วบริเวณอาหารสำนักงาน 4 แห่งในกรุงเทพฯ และในเร็ว ๆ นี้จะขยายอีกจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการใช้ AI และ มาชีน เลิร์นนิ่ง (Machine Learning) ช่วยในการจัดสรรงานสำหรับคนขับ และวางแผนระบบปฏิบัติการหลังบ้าน ล่าสุด เปิดการใช้งาน แผนที่ในอาคาร (Indoor Map) ที่ช่วยแนะนำเส้นทาง และบอกตำแหน่งของร้านอาหารภายในห้าง หรืออาคาร เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการค้นหาได้ถึงร้อยละ 20 

ทั้งนี้ แกร็บ เป็นแพลตฟอร์มซูเปอร์แอปที่ให้บริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีบริการทั้ง ดีลิเวอรี บริการการเดินทาง และบริการทางการเงินดิจิทัล ครอบคลุมกว่า 700 เมือง ใน 8 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย และเวียดนาม ปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้บริการจริง รวมกว่า 41 ล้านราย

และ ปี 2566 ที่ผ่านมา ช่วยสร้างรายได้ให้กับคนขับ และร้านอาหาร รวมกัน เป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน จะคิดเป็นมูลค่าราว 360,000 ล้านบาท

เฉพาะ แกร็บ ประเทศไทย ผู้บริหาร บอกว่า ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ที่สร้างรายได้ให้กับกลุ่ม นอกจากนี้ ยังบอกอีกว่า บริษัทฯ มีผลกำไรติดต่อกันมา 2 ปีแล้ว และปีนี้ คาดว่ายังดีเหมือนเดิม โดยภาพรวมของธุรกิจในปีนี้ เติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งมาจากหลายปัจจัย เช่น การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มของแกร็บเองให้บริการหลากหลายรูปแบบ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการได้ทั้งเรียกรถ ส่งอาหาร และส่งของ  ขณะเดียวกัน การดำเนินงานของธุรกิจก็มีประสิทธิภาพ และโพรดักทิวิตี้ส์ ที่ดีกว่าเดิม 

ส่วนกรณีบริษัทวิจัยฯ ในต่างประเทศ ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดด้านธุรกิจอาหารของ แกร็บ ลดลงมาเป็นอันดับ 2 ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา คุณ วรฉัตร ยืนยันอีกครั้ง ว่า บริษัทฯ ไม่เคยแชร์ข้อมูลให้ใคร ดังนั้น จึงไม่มีใครรู้ว่ายอดขายของบริษัทฯ เป็นเท่าไหร่ หรือแม้ว่าจะมีการตรวจสอบผลประกอบการ จากข้อมูลของกรมการค้าภายใน (กระทรวงพาณิชย์) แต่ข้อมูลดังกล่าว ก็ไม่ได้แยกออกมาว่าส่วนของธุรกิจอาหารเป็นเท่าไหร่

นอกจากนี้ การบันทึกรายได้ แกร็บ ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมีการบันทึกรายได้ตามมาตรฐานของสหรัฐฯ ซึ่งจะแตกต่างจากบริษัทฯ ในไทย (*สะท้อนว่า การเปรียบเทียบกัน จะทำได้ยาก) 

และได้ ตั้งประเด็นคำถามไว้ ด้วยว่า บริษัทดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน และวิธีการใช้คืออะไร อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการด้านกฏหมาย


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง