ลุยต่อ "ลาซาด้า กรุ๊ป" กำไรรอบ 12 ปี l การตลาดเงินล้าน
"ลาซาด้า กรุ๊ป" ปีนี้ ทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี และประกาศลุยโตต่อ โดยเฉพาะในประเทศไทย
ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศ ในปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่า ตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ คือ อินโดนีเซีย มีมูลค่าตลาดรวม 2.73 ล้านล้านบาท ถัดมา อันดับ 2 ก็คือ ไทย มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 980,000 ล้านบาท และต่อมาคือ เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ที่มีขนาดของตลาดใกล้เคียงกัน อยู่ที่ 700,000 ล้านบาท ซึ่งก็อยู่อันดับ 3 และ 4 ส่วนอันดับ 5 คือ มาเลเซีย มีมูลค่าตลาด 560,000 ล้านบาท และอันดับ 6 คือ สิงคโปร์ มูลค่า 350,000 ล้านบาท
คุณ วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า อีคอมเมิร์ซไทย เป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีอัตราการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคนี้ ซึ่งไทย มีการเติบโตสูงถึงร้อยละ 20 และมองว่า ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก เนื่องจาก ไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านโลจิสติกส์ และระบบการชำระเงิน ที่มีความน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันคนไทยเอง มีการปรับใช้เทคโนโลยี และมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในระดับสูง
นอกจากนี้ จากข้อมูลของลาซาด้า พบว่า การเติบโตของอีคอมเมิร์ซในไทย ถูกขับเคลื่อนโดยนักชอปผู้หญิง ที่มีการซื้อสินค้ามากกว่า และบ่อยกว่า ผู้ชาย และเมื่อดูตามอายุ พบว่า กลุ่ม เจน ซี (Gen Z) มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับการสำรวจของบริษัทฯ ที่พบว่าร้อยละ 35 ของกลุ่มเจน ซี รับหน้าที่ซื้อสินค้าให้กับครอบครัว ดังนั้น คนวัยนี้จึงเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลสูงในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
ขณะเดียวกัน ก็พบว่าร้อยละ 71 ของนักชอปออนไลน์ จะมีการซื้อสินค้าจากการแนะนำ
สำหรับสินค้าที่ขายดี บนลาซาด้า ได้แก่ แฟชั่น และความงาม ส่วนหมวดหมู่สินค้าที่มียอดขายเติบโตโดดเด่น ได้แก่ ของเล่นและเกม, กล้องและโดรน, มือถือและแท็บเล็ต ตลอดจนของกินของใช้ และเฟอร์นิเจอร์
ทั้งนี้ ลาซาด้า กรุ๊ป ถือเป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดำเนินธุรกิจมาจนถึงปีนี้ เป็นปีที่ 12 แล้ว มีธุรกิจอยู่ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลลิปปินส์, สิงคโปร์ และเวียดนาม อีกทั้งยังเป็นธุรกิจภายใต้อีโคซิสเต็ม ของ อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง อีกด้วย
นอกจากนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ลาซาด้า กรุ๊ป รายงานผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ อีบิตดา (EBITDA) ที่เป็นบวกครั้งแรกรอบ 12 ปี
ผู้บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า เป็นการสะท้อนถึงประสิทธิภาพการทำงาน และการลงทุนมายาวนานในภูมิภาคนี้ และยังถือเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของอีคอมเมิร์ซ ที่ลาซาด้า กรุ๊ป จะให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ มากกว่าการบรรลุเป้าหมายในระยะสั้น เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับ ลาซาด้า ประเทศไทย จะเดินหน้าลงทุนในไทยต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 3 ด้านคือ การยกระดับประสบการณ์ของนักชอป แบบเฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำและความเหนียวแน่นของนักชอป
ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ได้มีการนำ AI เข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและฟีเจอร์ต่าง ๆ โดยมี เกมิฟิเคชัน (Gamification) เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับนักชอป และสุดท้าย คือการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ข่าวแนะนำ