TNN สศช.เปิด 5 ปัจจัยท้าทายที่ไทยต้องรับมือ

TNN

เศรษฐกิจ

สศช.เปิด 5 ปัจจัยท้าทายที่ไทยต้องรับมือ

สศช. แนะ 5 ปัจจัยความท้าทายที่ไทยต้องรับมือการเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์โลกในอนาคต ชี้มาตรการแยกห่วงโซ่อุปทานสหรัฐ-จีน กระทบการค้าเสรี

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวเปิดในการประชุมประจำปี 2567 เรื่อง “พลิกความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ สร้างโอกาสประเทศไทย ” ในหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลก : นัยต่อประเทศไทย” ว่า 5 ความท้าทายที่ไทยต้องบริหารจัดการ เพื่อรับมือความความผันผวนภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เกิดขึ้นในระยะถัดไป 


ได้แก่ 1.ด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ หรือเอฟดีไอ ที่ไหลสู่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง 2.เทคโนโลยี ควรให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มให้บริการที่แยกจากกัน ที่จะส่งผลให้ต้นทุนการใช้บริการสูง รวมถึงประเด็นความปลอดภัยทางไซเบอร์และช่องว่างทางดิจิทัล


3..แรงงาน จะต้องดึงแรงงานที่มีทักษะสูงมาช่วยทำงานและถ่ายทอดความรู้ให้กับแรงงานไทยเพื่อร่นระยะเวลาในการผลิตแรงงาน และช่วยให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าแบบก้าวกระโดดได้ 


4.ความมั่นคงทางอาหาร ก็เป็นอีกเรื่องที่ไทยต้องให้ความสำคัญ เพราะหากจะส่งอาหารออกไปต่างประเทศอย่างเดียวโดยไม่สำรองอาหารภายในประเทศ เมื่อเกิดปัญหาขาดแคลนอาหารภายในประเทศจะบริหารอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องบริหารการผลิตและต้องใช้โอกาสนี้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มต่อสินค้าเกษตรของไทย


5.ความมั่นคงพลังงาน ต้องเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่ที่มีข้อขัดข้องกันในเรื่องพลังงานนี้อยู่ก็จะช่วยให้ไทยมีความมั่นคงด้านพลังงาน และเดินหน้าเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาคอาเซียนได้ การไหลเข้ามาของสินค้าราคาถูกจากจีนที่กระทบผู้ประกอบการภาคการผลิตของไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอี หรือผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ขัดแย้ง


ขณะที่ การแยกห่วงโซ่อุปทานระหว่างสหรัฐ และจีน ข้อจำกัดจากมาตรการกีดกันต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการแบ่งแยกทางเศรษฐกิจ นำมาสู่แนวนโยบายที่ส่งผลเสียต่อการค้าเสรีในหลายประเทศ เมื่อรวมกับโควิด-19 สงครามรัสเซียและยูเครน อิสราเอลและกลุ่มฮามาส ส่งผลให้แนวโน้มการปรับเปลี่ยนห่วงโซ่การผลิตโลกมีความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อประเทศต่างๆ มุ่งย้ายฐานการผลิตกลับไปยังประเทศแม่ของบริษัท หรือไปยังประเทศที่เป็นพันธมิตร เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่การผลิต และหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า 


ที่มา TNN

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง