ข้าวญี่ปุ่นราคาพุ่ง กระทบร้านอาหาร I ย่อโลกเศรษฐกิจ
พาณิชย์ เผยข้าวในประเทศญี่ปุ่น กำลังประสบปัญหาครั้งใหญ่ หลังราคาข้าวในประเทศพุ่งสูง กระทบอุตสาหกรรมขนม และร้านอาหารมากขึ้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กระทรวงพาณิชย์ รายงานสถานการณ์การค้า โดยเฉพาะ "ตลาดข้าว" ในประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดเดือนกันยายน 2567 พบว่า ขณะนี้ ข้าวในประเทศญี่ปุ่น กำลังมีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ตอนนี้ผู้ประกอบธุรกิจหลายรายที่ต้องการใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบทำขนม หรือผู้ประกอบการร้านอาหาร ได้หันมานำเข้าข้าวจากต่างประเทซเพิ่มมากขึ้น เพราะมีต้นทุนที่ถูกกว่า
จากข้อมูลระบุว่า ท่ามกลางการภาวะขาดแคลนข้าว ผู้ผลิตขนมข้าว หรือ “เซมเบะ” หรือที่รู้จักกันในชื่อข้าวเกรียบญี่ปุ่น หลายบริษัทกำลังปรับขึ้นราคาและพิจารณาหาแหล่งวัตถุดิบข้าวใหม่
โดยข้าวชนิดพิเศษที่มีขนาดเล็ก (ข้าวหัก) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตขนมข้าวมีปริมาณลดลงอย่างมาก เนื่องจากผลกระทบจากสภาวะอากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้น ในปี 2566
ขณะที่ผู้บริโภคมีความต้องการสูงขึ้นและราคาก็พุ่งสูงขึ้นด้วย บริษัทต่าง ๆ จึงต้องเร่งปรับราคาสินค้าหรือหันมาใช้ข้าวนำเข้าที่มีการต้นทุนถูกกว่า
สำหรับข้าวหัก (broken rice) หมายถึงเมล็ดข้าวที่แตกหักระหว่างกระบวนการสีข้าว และมีขนาดเล็กกว่า 1.85 มิลลิเมตร โดยทั่วไปมีขนาดเล็กกว่าข้าวสำหรับบริโภค ยังคงมีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนข้าวเต็มเมล็ด ซึ่งข้าวหักเกิดขึ้นประมาณไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตข้าว
ตัวแทนจาก บริษัท Kameda Seika ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้าวหักในปีงบประมาณ 2566 ว่า การจัดหาข้าวยังทำได้ แต่ด้วยปริมาณที่ลดลง ราคาข้าวหักจึงสูงขึ้นมาก
สอดคล้องกับริษัท Sanko Seika ยอมรับว่า การจัดหาทำได้ตามความต้องการ แต่ราคายังคงอยู่ในระดับสูง โดยทั้งสองบริษัทมีชื่อเสียงในการผลิตขนมข้าวอบกรอบ (senbei) และขนมขบเคี้ยวอื่น ๆ ในจังหวัดนิงาตะ
โดยบริษัทในญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักใช้ข้าวหักเป็นวัตถุดิบในขนมที่ทำจากข้าว เช่น เซมเบะ ข้าวเกรียบ Rice Cracker และมิโสะ (Miso) เครื่องปรุงรสที่สำคัญในอาหารญี่ปุ่น เป็นต้น
โดยที่ข้าวหักจะมีช่วงราคาที่กว้างไม่คงที่ และไม่มีข้อมูลราคาขายส่งที่ชัดเจน ข้อมูลจากสมาคมข้าวแห่งชาติญี่ปุ่น พบว่าช่วงหนึ่งราคาขึ้นมาเทียบเคียงใกล้กับข้าวสำหรับบริโภค
ข่าวแนะนำ