TNN “ภัยแล้ง-ลมแรง” ชนวนสำคัญจุดไฟป่าแอลเอ

TNN

Earth

“ภัยแล้ง-ลมแรง” ชนวนสำคัญจุดไฟป่าแอลเอ

“ภัยแล้ง-ลมแรง” ชนวนสำคัญจุดไฟป่าแอลเอ

ปีนี้ ลอสแองเจลิส เผชิญกับไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของไฟป่าครั้งนี้ก็คือ ความรวดเร็วในการลุกลามของไฟป่า


สำหรับปัญหาไฟป่า จริง ๆ แล้วสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปีในแคลิฟอร์เนีย แต่ฤดูกาลไฟป่าที่มักเกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ปกติจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ส่วนแคลิฟอร์เนียตอนเหนือมักเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมและยาวไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีแบบนี้นั้นถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติและเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เพราะจริงๆ แล้วเป็นช่วงที่พื้นที่บริเวณนี้ควรจะมีฝน ซึ่งฤดูฝนที่แคลิฟอร์เนีย ปกติแล้วจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนและสิ้นสุดในเดือนเมษายน โดยช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ช่วงนี้จะมีฝนตกบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนเหนือและพื้นที่ชายฝั่งของรัฐ ส่วนทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียจะมีฝนตกน้อยกว่าแต่ก็ยังคงมีบางช่วงที่ฝนตกในฤดูฝน แต่ปรากฏว่าปีนี้พื้นที่ในนครลอสแองเจลิสได้รับปริมาณฝนเพียง 0.16 นิ้ว นับตั้งแต่เดือน ต.ค. ถือว่าแล้งเป็นอย่างมาก


ไม่เพียงแต่เรื่องของฝนที่ตกน้อยผิดปกติแล้ว แต่ปีนี้สิ่งที่ทำให้ไฟป่าโหมรุนแรงอย่างรวดเร็วคือ “ลมซานตาอานา” ซึ่งเป็นลมที่พัดจากทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามายังชายฝั่งของแคลิฟอร์เนีย โดยลมเหล่านี้จะพัดผ่านหุบเขาและภูเขา ทำให้ลมมีความแรงและอุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อผ่านพื้นที่เหล่านี้ ลมจะมีความแห้งและร้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟป่าหรือเพิ่มความเสี่ยงในการลุกลามของไฟป่าได้ โดยลมซานตาอานามักจะเกิดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมถึงมีนาคม และมีความสัมพันธ์กับสภาพอากาศที่แห้งและอุณหภูมิสูง ซึ่งทำให้ลมนี้เป็นลมที่มีผลกระทบสำคัญต่อสภาพอากาศและการเกิดไฟป่าภายในรัฐแคลิฟอร์เนีย


จะเห็นว่าเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทั้งฝนน้อยและลมแรง รวมถึงการสูญเสียน้ำในชั้นบรรยากาศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งในอนาคตอาจไม่มีฤดูไฟป่าแล้วก็เป็นได้ เพราะหากอากาศยังแปรปรวนไม่หยุด โอกาสที่จะเกิดไฟป่าก็คงเกิดขึ้นได้ตลอดปี

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง