"โนโรไวรัส" ไม่ใช่โรคใหม่ แต่ระบาดทุกปีในช่วง "ฤดูหนาว"
กระทรวงสาธาณสุข ย้ำว่ากรณีที่พบผู้ป่วยติด “เชื้อโนโรไวรัส” ในไทย ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตื่นตระหนกเพราะพบมีการระบาดเป็นประจำในฤดูหนาว และไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึง กรณี “โนโรไวรัส” ที่พบมีผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ว่าประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะไม่ใช่ไวรัสที่เกิดขึ้นใหม่ โดยโนโรไวรัสจะระบาดในช่วงฤดูหนาวของทุกปีเป็นประจำ เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อจะแสดงอาการประมาณ 12 ชั่วโมง และสามารถหายได้เองภายใน 48 ชั่วโมง แต่หากมีอาการรุนแรงก็ต้องไปพบแพทย์
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดระยองที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้ เป็นเหตุการณ์เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นอาการท้องเสียของเด็กนักเรียน ตรวจสอบยืนยันว่าเกิดจากเชื้อ อีโคไล และโคลิฟอร์มแบคทีเรีย จำนวน 1,436 ราย พบการติดเชื้อโนโรไวรัส เพียงจำนวน 2 ราย เท่านั้น และปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
สำหรับ “โนโรไวรัส” เป็นไวรัสที่ติดต่อจากคนสู่คนสามารถติดต่อได้ง่าย จากการสัมผัสทางอาหาร น้ำดื่ม การสัมผัส และการหายใจ เช่น การสัมผัสผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัสโดยตรง การสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโนโรไวรัส รวมถึงสภาพแวดล้อมไม่ถูกหลักสุขาภิบาล ทั้งนี้แนวทางการป้องกันนั้นให้กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ส่วนวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสชนิดนี้ยังไม่มี ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค พบว่า ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงกลางเดือนธันวาคม ไทยพบผู้ป่วยแล้ว 991 คน
ขณะที่ ข้อมูล ของ ศาสตราจารย์นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้า ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬา ออกมาระบุว่า “โนโรไวรัส” จะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในฤดูหนาวทุกปี เช่นเดียวกับ โรต้าไวรัส ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป
โดยศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาระบาดวิทยาของโนโรไวรัสมานานกว่า 10 ปี โดยจำแนกสายพันธุ์อย่างละเอียด พบว่าสายพันธุ์ที่ระบาดมีความหลากหลายมาก และจะเห็นว่าในช่วงโควิด 19 ที่มีการเข้มงวดมาตรการส่วนบุคคล สถานการณ์โนโรไวรัสได้ลดลง แต่หลังไม่ได้เข้มงวดกับมาตรการก็กลับมาเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญขณะนี้ จะอยู่ที่เด็กหรือบุคคลที่อยู่รวมกันหมู่มาก เช่น ในโรงเรียน โรงงาน จะต้องมีมาตรการควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด
ภาพ: ENVATO
ข่าวแนะนำ