วัยหนุ่มสาวเสี่ยงเสียชีวิตสูงขึ้น ภายใต้วิกฤต "ภาวะโลกร้อน"
วัยหนุ่มสาวกับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นภายใต้ “ภาวะโลกร้อน” งานวิจัยพบว่าคนวัยหนุ่มสาวมีความเสี่ยงเสียชีวิตจากความร้อนสูงขึ้น โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้ใหญ่อายุ 18-35 ปี
การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances เผยให้เห็นถึงผลกระทบของความร้อนที่ส่งผลต่อคนวัยหนุ่มสาว โดยระบุว่ากลุ่มนี้มีความเปราะบางต่อความร้อนมากกว่าที่คิด แม้ว่านโยบายและงานวิจัยก่อนหน้านี้มักเน้นไปที่ผลกระทบต่อผู้สูงอายุที่มีความไวต่อความร้อนเพิ่มขึ้นตามวัย
งานวิจัยดังกล่าวใช้ข้อมูลการเสียชีวิตในเม็กซิโกซึ่งเก็บบันทึกได้ครบถ้วนกว่าหลายประเทศ โดยเปรียบเทียบจำนวนผู้เสียชีวิตจริงกับจำนวนที่คาดการณ์ในสภาพปกติ จากนั้นจึงเชื่อมโยง "การเสียชีวิตส่วนเกิน" กับข้อมูลอากาศ เช่น อุณหภูมิและความชื้น พบว่าคนวัยหนุ่มสาวมีความเสี่ยงเสียชีวิตจากความร้อนสูงขึ้น โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้ใหญ่อายุ 18-35 ปี ความเสี่ยงนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคตเมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้วันอากาศร้อนชื้นเพิ่มขึ้น
กลไกการตอบสนองของร่างกายต่อความร้อนจะแตกต่างกันตามอายุ เด็กเล็กมีรูปร่างที่สะสมความร้อนได้ง่าย ในขณะที่คนหนุ่มสาวสามารถจัดการความร้อนได้ดี แต่จะเพิ่มความเสี่ยงเมื่อทำกิจกรรมหนัก เช่น ทำงานกลางแจ้งหรือออกกำลังกาย ส่วนผู้สูงอายุ ระบบเหงื่อและการไหลเวียนเลือดมักด้อยประสิทธิภาพ ทำให้มีความไวต่อความร้อนและชื้น
งานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าภูมิภาคที่ร้อนอยู่แล้ว เช่น เม็กซิโกและบางพื้นที่ในสหรัฐฯ เช่น มาริโคปา เคาน์ตี้ มีความเสี่ยงสูงขึ้นในกลุ่มคนทำงานกลางแจ้ง คนไร้บ้าน และผู้ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างกลุ่มประเทศที่มีบทบาทน้อยต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแต่ได้รับผลกระทบรุนแรงก็เป็นอีกมิติที่ต้องพิจารณา
นโยบายและโครงการช่วยเหลือยังจำเป็นต้องคำนึงถึงกลุ่มวัยหนุ่มสาวที่มักถูกมองข้าม เช่น การกำหนดกฎระเบียบด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเพื่อลดความเสี่ยงจากการทำงานในสภาพอากาศร้อนจัด นอกจากนี้ การวิจัยเพิ่มเติมในบริบทของประเทศที่มีลักษณะภูมิอากาศและเศรษฐกิจแตกต่างกันอาจช่วยขยายความเข้าใจและออกมาตรการได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
แม้การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศจะทำให้การเสียชีวิตจากอากาศเย็นลดลงในบางพื้นที่ แต่นักวิจัยย้ำว่าผลกระทบโดยรวมจากคลื่นความร้อนจะยังเพิ่มขึ้น ซึ่งชี้ถึงความสำคัญของการปรับตัวและการป้องกันที่เหมาะสมสำหรับทุกช่วงวัย
ที่มา: www.npr.org
ข่าวแนะนำ