ลกร้อนทำ “ไวน์” เพี้ยน และแหล่งผลิตไวน์อาจเปลี่ยนไป

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อผลผลิตทั่วโลก รวมถึงกระทบองุ่นซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมไวน์ อย่างที่ประเทศโครเอเชีย ปีนี้อุตสาหกรรมไวน์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะอากาศที่ร้อนขึ้นสร้างความเสียหายและทำลายองุ่นไปมาก ทำให้เกษตรกรและผู้ผลิตไวน์ ต่างเป็นกังวลกับอาชีพของพวกเขาซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เนื่องจากฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ในคาบสมุทรบอลข่าน ส่งผลต่อคุณภาพขององุ่นในหลายประเทศในแถบภูมิภาคนี้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะที่โครเอเชีย เพราะปีนี้องุ่นมีขนาดเล็กลง เนื่องจากปริมาณฝนที่ไม่แน่นอน รวมถึงอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งในปีนี้ ทำให้ระบบไฟฟ้าในภูมิภาคขัดข้องบ่อย กระทบต่อปริมาณน้ำสำรอง และทำให้องุ่นไม่เติบโตได้ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้อากาศที่ร้อนจัดยังทำให้ผู้ผลิตไวน์ต้องเริ่มเก็บเกี่ยวองุ่นกันเร็วขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งเร็วกว่าปีที่แล้ว 1 เดือน เลยทีเดียว 

ซึ่งหากดูจากแผนที่พื้นที่ผลิตไวน์ทั่วโลกจะพบว่า พื้นที่เพาะปลูกองุ่นเพื่อใช้สำหรับทำไวน์ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณประเทศแถบซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ห่างจากเส้นศูนย์สูตรออกไป โดยพื้นที่ที่ผลิตไวน์หลัก ๆ ส่วนมากอยู่บริเวณแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา ยุโรป ประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ ประเทศแอฟริกาใต้และตอนใต้ของออสเตรเลีย เพราะพบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของพื้นที่บริเวณนี้จะอยู่ที่ประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส แต่ที่น่ากังวลคือ ภาวะโลกร้อนในปัจจุบันกำลังทำให้อุณหภูมิแถบนี้อุ่นขึ้นเรื่อย ๆ ปลูกได้ไม่เหมือนเดิม ทำให้ผลผลิตที่ใช้ในการผลิตไวน์ ลดลงเรื่อย ๆ และอากาศที่ร้อนจัดทำให้รสชาติของไวน์เปลี่ยนไป เรียกว่าภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลต่อเกษตรกรและอุตสาหกรรมไวน์ในภาพรวมซึ่งอาจทำให้ในอนาคตแหล่งผลิตไวน์ทั่วโลกอาจเปลี่ยนไปก็เป็นได้