ญี่ปุ่นพัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ ทนอากาศร้อนได้ดีขึ้น
ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลก ทำให้เกษตรกรต้องเร่งปรับตัวและหาวิธีพัฒนาผลผลิตเพื่อจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้คาดการณ์ว่า หากโลกร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ภัยแล้งและภัยธรรมชาติต่าง ๆ จะรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ภายในปีพ.ศ.2573 ผลผลิตทางการเกษตรจะลดลง มีการคาดการณ์ว่าข้าวจะลดลง 23% และจะมีราคาแพงขึ้น 89% ข้าวสาลีจะลดลง 13% และจะมีราคาแพงขึ้น 75% ข้าวโพดผลผลิตจะลดลง 12% และราคาจะแพงขึ้น 90%
จากปัญหานี้ทำให้นักวิจัยในญี่ปุ่นพยายามหาวิธีปรับตัวและพัฒนาผลผลิตให้ดีขึ้น หลังจากที่ญี่ปุ่นเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดถี่ขึ้น ทำให้ประสบปัญหาขาดแคลนข้าว จนทำให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นักวิจัยจึงได้หาทางแก้ปัญหานี้ ด้วยการพัฒนาข้าวสายพันธุ์ใหม่ ชื่อว่า เอมิโฮโคโระ (Emihokoro) มีคุณสมบัติคือทนความร้อนได้ดี โดยข้าวสายพันธุ์ เอมิโฮโคโระ พัฒนาที่ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีการเกษตรของจังหวัดไซตามะ ภูมิภาคคันโต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อากาศร้อนที่สุดในญี่ปุ่น สำหรับเมล็ดข้าวทั่วไป จะมีโครงสร้างของแป้งที่จัดเรียงเป็นระเบียบ แต่เมื่อเผชิญกับความร้อนสูง แป้งจะถูกขัดขวางไม่ให้สะสมในเมล็ดข้าวได้อย่างเป็นปกติ ทำให้เม็ดข้าวมีสีขุ่นหรือมีจุดสีขาวได้ ส่งผลให้มูลค่าของข้าวที่จะขายลดลง แต่ข้าวพันธุ์ Emihokoro ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ สามารถทนความร้อนได้สูง ดังนั้นแม้อุณหภูมิสูงขึ้นก็สามารถรักษาคุณภาพของเมล็ดข้าวไว้ได้นั่นเอง
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การปรับตัวเพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคตเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเตรียมพร้อมเร็ว ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ผลกระทบและความเสียหายก็อาจจะน้อยลง
ข่าวแนะนำ