"บอมบ์ ไซโคลน" ถล่มสหรัฐฯ เกิดฝนตกหนัก- ลมแรง-พายุหิมะ กระทบประชาชนกว่า 6 แสนคน
พายุกำลังแรง “บอมบ์ ไซโคลน” ถล่มหลายพื้นที่ในสหรัฐฯ ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง กระทบประชาชนกว่า 6 แสนคน ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 ราย ด้านสำนักงานอุตุฯ แจ้งเตือนเฝ้าระวังฝนตกหนัก และพายุหิมะ
ในมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐฯ พบระบบพายุขนาดใหญ่ กำลังหมุนอยู่เหนือพื้นที่ โดยพายุกำลังแรงลูกนี้ ซึ่งเรียกว่า “บอมบ์ ไซโคลน” พัดถล่มรัฐวอชิงตันเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) ทำให้ประชาชนหลายแสนคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะเดียวกันยังส่งผลกระทบต่อการสัญจรทางถนน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย
คาดว่าลมจะสงบลงทั่วภูมิภาคภายในวันนี้ (21 พ.ย.) แต่พายุได้เคลื่อนตัวเข้าสู่แคลิฟอร์เนียแล้ว และคาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์
นักอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ อาจมีฝนตกหนักในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐออริกอน และทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย
“บอมบ์ ไซโคลน” จะทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็วในเวลา 24 ชั่วโมงหรือเร็วกว่านั้น เมื่อมวลอากาศเย็นจากบริเวณขั้วโลกปะทะกับอากาศร้อนในเขตร้อน ซึ่งเป็นกระบวนการที่นักอุตุนิยมวิทยาเรียกว่า “บอมบ์ ไซโคลน” หรือ “บอมโบเจเนซิส”
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนและเฝ้าระวังทั่วบริเวณแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือเกี่ยวกับลมแรง น้ำท่วม และการเตือนภัย รวมถึงคำเตือนเกี่ยวกับพายุหิมะ ตั้งแต่ตอนเหนือของรัฐวอชิงตันไปจนถึงเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา
“บอมบ์ ไซโคลน” ซึ่งเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลม 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมที่จุดศูนย์กลาง 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดต้นไม้และเสาไฟหักโค่น ทำให้บ้านเรือนและห้างร้านธุรกิจกว่า 600,000 แห่ง ในรัฐวอชิงตัน, ออริกอน และตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่มีไฟฟ้าใช้
สำหรับ "บอมบ์ ไซโคลน" เป็นชื่อที่นักพยากรณ์อากาศใช้เรียกพายุชนิดนี้ ที่มีสาเหตุจากความกดอากาศตกฮวบลงอย่างรวดเร็วบริเวณนอกชายฝั่ง ส่งผลให้สภาพอากาศรุนแรงขึ้นอย่างฉับพลัน
ข่าวแนะนำ