จับตา COP29 จะไปทางไหน? เมื่อผู้นำชาติมหาอำนาจเมิน และเจ้าภาพงานเป็นผู้ผลิตน้ำมัน
เลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องผู้นำโลกในที่ประชุมสภาพอากาศโลกให้ร่วมจ่ายเงินสนับสนุนการแก้ปัญหาโลกร้อน เพื่อป้องกันภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมที่เกิดจากภาวะโลกร้อน
นาย “อันโตนีโอ กูแตร์เรส” เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น แถลงบนเวทีการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP29 ที่กรุงบากูของอาเซอร์ไบจาน เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา และกล่าวต่อเหล่าผู้นำโลกที่เข้าร่วมประชุมให้ยอมจ่ายเพื่อป้องกันภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมที่เกิดจากสภาพอากาศ หรือจะยอมเผชิญหายนะต่อมนุษยชาติ - และ ว่า เวลากำลังจะลดน้อยถอยลงไปทุกขณะเพื่อลดทอนหรือจำกัดความเสียหายที่เกิดจากภาวะโลกร้อน
“กูแตร์เรส” ยังระบุด้วยว่า ปี 2024 นี้คือ ปีแห่งการทำลายล้างจากสภาพภูมิอากาศ มีครอบครัวที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากเฮอริเคน, คนงาน และผู้แสวงบุญที่ต้องสิ้นชีวิตจากอากาศร้อนจัด, น้ำท่วมหลายประเทศ, เด็ก ๆ ที่ต้องหิวโหยจากภัยแล้ง สิ่งหล่านี้กำลังถูกเร่งเร้าจากน้ำมือมนุษย์ที่เป็นผู้ทำให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
บรรดาผู้นำโลกร่วมประชุมสภาพอากาศโลกประจำปีที่อาเซอร์ไบจาน โดยปีนี้เน้นหารือกันในเรื่องหางบประมาณเพื่อสนับสนุนความพยายามทั่วโลกเพื่อส่งผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิลสู่พลังงานสะอาดเพื่อลดทอนความเสียหายจากภาวะโลกร้อนที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
อย่างไรก็ดี ในวันที่ต้องมีการระดมสรรพกำลังจากเหล่าผู้นำโลก แต่ผู้นำจากประเทศยักษ์ใหญ่หลายคน ไม่มาร่วมประชุมรับฟังข้อความจากนายกูแตร์เรส เมื่อประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ของสหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้หมดวาะดำรงตำแหน่งและสหรัฐฯ กำลังจะได้ผู้นำคนใหม่ที่เป็นผู้ไม่ยอมรับเรื่องภาวะโลกร้อนอย่าง “โดนัดล์ ทรัมป์” ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 5พ.ย. ส่วนด้านประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ของจีน ส่งตัวแทนเข้าร่วม และ “อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ไม่เข้าร่วมด้วยเหตุผลมีพัฒนาการทางการเมือง ในสหภาพยุโรปหรืออียู
อย่าไรก็ตาม การที่ “อาเซอร์ไบจาน” เป็นเจ้าภาพการประชุม COP29 ในปีนี้ กำลังกลายเป็นประแสสังคมอยู่ไม่น้อย เนื่องจากอาเซอร์ไบจาน มีแผนการที่จะขยายการขุดเจาะก๊าซให้มากขึ้นอย่างน้อย 1 ใน 3 ภายใน 10 ปีข้างหน้า ทำให้เหล่าผู้สังเกตการต์ต่างกังวลว่า ประเทศเจ้าภาพยังมีเป้าหมายเช่นนี้ ในขณะที่การประชุม COP มีเป้าประสงค์ที่จะถอยห่างจากการใช้เชื้อเพลิงฟอซซิล
ซึ่งน้ำมันและก๊าซ คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ระหว่างที่เกิดการเผาไหม้่
ขณะที่ “มัคห์ตาร์ บาบีเยฟ” ประธาน COP29 ซึ่งเเป็นรัฐมนตรีกระทรวงนิเวศวิทยาและทรัพยากรธรรมชาติของอาเซอร์ไบจาน ก็เคยทำงานในบริษัทน้ำมันและก๊าซของรัฐ มานานถึง 26 ปี
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่า เจ้าหน้าที่อาเซอร์ไบจานกำลังใช้การประชุม COP เพื่อเพิ่มการลงทุนในบริษัทน้ำมันและก๊าซของประเทศด้วย
นี่เป็นปีที่ 2 แล้ว ที่เจ้าภาพการประชุม COP ถูกวิจารณ์เนื่องจากเป็นประเทศที่ยังคงมีผลประโยชน์จากเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างปีที่แล้ว สุลต่าน “อัล จาเบอร์” ประธานของบริษัทน้ำมันแห่งชาติ อาบูดาบี แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ก็เป็นประธานการประชุม
ประเด็นดังกล่าว ทำให้ “อิลฮาม อาลิเยฟ” ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ต้องออกมาปกป้องตัวเอง โดยระบุว่า การที่หลาย ๆ คนมาเรียกเราว่าเป็น "รัฐน้ำมัน" แบบนี้ มันไม่ยุติธรรมเสียเลย เพราะพวกเขามองเพียงภายนอก โดยที่ไม่สนใจวัฒนธรรมการเมืองและความรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกวันนี้ อาเซอร์ไบจาน ผลิตน้ำมันเพียง 0.7% และผลิตก๊าซ แค่ 0.9% ของทั้งโลก แต่กลับมีข่าวลวงจากบางประเทศ ที่เขาเป็นชาติผลิตน้ำมันและก๊าซอันดับหนึ่งของโลก ที่มากกว่าอาเซอร์ไบจานถึง 30 เท่า - อีกทั้งอาเซอร์ไบจาน ปล่อยก๊าซเพียง 0.1% และเขาควรหันกลับไปมองตัวเอง
ข่าวแนะนำ