พายุ "จ่ามี" ถล่ม "ฟิลิปปินส์" เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 ราย
พายุโซนร้อน "จ่ามี" พัดถล่มฟิลิปปินส์ เสียชีวิตแล้ว 14 ราย เนื่องจากน้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างยากลำบาก
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฟิลิปปินส์ ลุยน้ำท่วมสูงถึงหน้าอกเมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) เพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในพื้นที่ หลังพายุโซนร้อนจ่ามี พัดถล่ม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย และหลายหมื่นคนอพยพ ขณะพายุเคลื่อนตัวมุ่งหน้าชายฝั่งด้านตะวันออก โดยอิทธิพลของพายุจ่ามี ทำให้เกิดฝนตกหนัก เปลี่ยนถนนกลายเป็นคลอง หลายหมู่บ้านจมน้ำ และรถยนต์บางคันถูกฝังอยู่ในตะกอนภูเขาไฟที่ทะลักลงมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า มีประชาชนอย่างน้อย 32,000 คน อพยพออกจากบ้านเรือนตนเองในภาคเหนือของฟิลิปปินส์ ขณะที่พายุเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในเขตบีโคล ห่างจากกรุงมะนิลา เมืองหลวงฟิลิปปินส์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 400 กิโลเมตร เกิดน้ำท่วมสูงอย่างไม่คาดคิด ทำให้ภารกิจในการกู้ภัยยากลำบาก
“ลุยซา คาลูบาคิบ” โฆษกสำนักงานตำรวจประจำเขตดังกล่าว ระบุว่า ได้ส่งทีมกู้ภัยของตำรวจไปช่วยเหลือประชาชน แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามอย่างหนักในการเข้าไปยังบางพื้นที่ เพราะมีน้ำท่วมสูง และกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ แถลงว่า จนถึงเวลา 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์กลางของพายุจ่ามี อยู่ห่างจากตะวันออกของจังหวัดออโรรา เกาะลูซอน 160 กิโลเมตร เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุด 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จ่ามีจะพัดเข้าถล่มชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือใกล้เมืองดีวีลากันต่อไป
และหลังจากพายุเคลื่อนขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์แล้ว คาดว่าวันนี้ ( 24 ต.ค.) จะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน จากนั้นเคลื่อนไปทางตะวันตก เข้าใกล้ทางตอนใต้เกาะไหหลำ และชายฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 26 -27 ต.ค.67 ก่อนที่จะวนกลับไปในทะเลจีนใต้อีกครั้ง พายุนี้จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย แต่อาจจะทำให้ประเทศไทย มีเมฆเพิ่มขึ้น และมีฝนบางพื้นที่ กับมีลมแรง
ที่มา:REUTERS
ข่าวแนะนำ