เผย 5 เมืองเสี่ยงจมน้ำเร็วสุดในโลก กทม. ติดอันดับเมืองเสี่ยงจมน้ำ
“ภาวะโลกร้อนส่งผลทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น มีงานวิจัยพบว่าในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา น้ำทะเลมีระดับสูงขึ้นกว่า 7 นิ้ว”
จอห์น อิงแลนเดอร์ (John Englander) นักสมุทรศาสตร์ชาวอเมริกัน และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลเพียง 7 นิ้วนี้ส่งผลให้พื้นที่บริเวณชายฝั่งร่นได้ 90 เมตร
สาเหตุหลักที่ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นนั้น มาจากปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลายและไหลลงสู่ท้องมหาสมุทร ยิ่งอุณหภูมิโลกสูงขึ้นเท่าไหร่ การละลายจะไวขึ้นเท่านั้นรวมถึงจากภัยธรรมชาติ เช่น การเกิดแผ่นดินไหวทำให้แผ่นดินทรุดตัว และเมื่อเกิดพายุฝนก็จะเพิ่มระดับน้ำทะเล จนล้นเข้าสู่แผ่นดินที่ทรุดตัวอยู่แล้วได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็มีเรื่องของการสูบน้ำบาดาล และการพัฒนาเมือง ทำให้หน้าดินหายไป ดินแห้ง เกิดการทรุดตัวได้
มีงานวิจัยพบว่า 5 เมืองเสี่ยงจมน้ำเร็วสุดในโลก อันดับ 1 คือจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าภายในปี 2573 จาการ์ตาจะจมลงใต้ทะเลอย่างถาวร
อันดับ 2 มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ มะนิลา ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเฉลี่ย 13.24 มม./ปี บวกกับแผ่นดินที่ทรุดลงเฉลี่ย 10 ซม./ปี และยังมีปัญหาการสูบน้ำบาดาลด้วย
อันดับ 3 โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม สาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของเมืองและการสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ ทำให้เกิดปัญหาดินทรุดตัว โฮจิมินห์ มักเกิดน้ำท่วมง่ายเมื่อฝนตกลงมา พบว่าพื้นดินโฮจิมินห์ทรุดตัวลงปีละ 2-3 ซม.
นดับ 4 เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า ชั้นดินของ ลุยเซียนา จะทรุดลงปีละ 1 ซม. เมื่อเกิดพายุพัดถล่มจึงเกิดน้ำท่วมรุนแรงมากขึ้นทุกปี
และอันดับ 5 กรุงเทพฯ ประเทศไทย ดินของ กทม. เป็นดินอ่อน เจอกับปัญหาการขยายตัวของเมือง การสูบน้ำบาดาล ยิ่งทำให้พื้นดินทรุดตัวไวขึ้น มีความเสี่ยงที่จะจมน้ำในอนาคต
จากปัญหาระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อ 600 ล้านคนทั่วโลกที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยง ไม่เพียงแต่กระทบวิถีชีวิตความเป็นอยู่แต่ยังส่งผลต่อระบบนิเวศ ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานมากมาย
ข่าวแนะนำ