“โลกร้อน” จนเกาหลีใต้ปลูกกล้วยได้ง่ายขึ้น

ปัจจุบันนี้ อุณหภูมิในเกาหลีใต้เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกษตรกรหลายรายพยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ อย่างล่าสุด พวกเขาก็พบว่ากล้วยที่เคยพยายามปลูกมานานเป็น 10 ปี เริ่มที่จะออกผลมากขึ้น และปลูกได้ง่ายขึ้น ทั้ง ๆ ที่กล้วยเป็นผลไม้กึ่งเขตร้อน และเกาหลีใต้เป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเขตอบอุ่น ซึ่งปกติแล้ว เป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะปลูกกล้วยได้ โดยนับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา อุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีอุ่นขึ้นต่อเนื่อง โดยอุณหภูมิเฉลี่ยเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 13.7 องศาเซลเซียส นับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกมา รวมถึงปริมาณน้ำฝนทั่วประเทศในช่วงฤดูฝนก็อยู่ที่ 660.2 มม. ซึ่งถือว่ามีปริมาณเกือบสองเท่าของค่าเฉลี่ยรายปีที่ 356.7 มม.เลยทีเดียว และด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนมากขึ้น เลยทำให้กลายเป็นว่ากลับปลูกกล้วยได้แล้ว 

ซึ่งถ้าดูจากอันดับประเทศที่ปลูกกล้วยได้มากที่สุดในโลก จะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น โดยประเทศแรกที่ปลูกกล้วยได้มากที่สุดคืออินเดีย โดยจากสถิติพบว่ามีปริมาณการผลิตเฉลี่ยมากถึง 30.5 ล้านตันต่อปี ตามมาด้วยจีน 12 ล้านตัน อินโดนีเซีย 7.3 ล้านตัน บราซิล 6.8 ล้านตัน และเอกวาดอร์ 6.6 ล้านตัน ส่วนประเทศไทยของเราเป็นอันดับที่ 18 มีปริมาณการผลิตทั้งหมด 1.3 ล้านตัน

ซึ่งโดยปกติแล้ว กล้วยเป็นพืชที่ชอบอากาศแบบร้อนชื้น ถ้าหากอุณหภูมิต่ำกว่า 14 องศาเซลเซียส กล้วยจะชะงักการเจริญเติบโต หรือโตช้าลง โดยกล้วยจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดเมื่ออุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20 องศาฯ ถึง 38 องศาฯ รวมถึงเป็นพืชที่ไม่ทนต่อแรงลม เพราะใบจะต้านลมทำให้ใบแตกได้ นอกจากนี้ยังต้องการแสงแดดที่เพียงพอ และยังเป็นพืชที่ต้องการน้ำและความชุ่นชื้นสูง ดังนั้นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนประมาณ  1,200-2,500 มิลลิเมตรต่อปี ก็จะปลูกกล้วยได้ดี

ดังนั้นจะเห็นว่า วิกฤตสภาพอากาศที่กำลังเกิดขึ้น กำลังทำให้ประเทศที่ไม่เคยปลูกกล้วยได้อย่างเกาหลีใต้ กำลังจะปลูกกล้วยได้ แม้อาจจะเป็นเรื่องดีต่อชาวเกาหลีใต้ ที่อนาคตอาจจะไม่ต้องซื้อกล้วยในราคาแพง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่น่ากังวลต่อวิกฤตสภาพอากาศในปัจจุบัน