สรุปสถานการณ์ “พายุ” จะเข้าไทยอีกกี่ลูก รุนแรงไหม - เหตุการณ์จะสงบลงเมื่อไร?
สรุปสถานการณ์ “พายุ” ครึ่งปีหลังมีแนวโน้ม จะเข้าไทยทั้งหมดกี่ลูก รุนแรงหรือไม่ - เหตุการณ์จะสงบลงเมื่อไร?
ความคืบหน้าสถานการณ์พายุล่าสุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ว่า ขณะนี้เท่าที่ทราบจะมีพายุเข้ามาอีก 1 ลูก ซึ่งในความเป็นจริงพายุมีอยู่ทั้งหมด 3 ลูก 2 ลูกในพื้นที่ภาคเหนือ และอีก 1 ลูกจะเข้าในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน
ความรุนแรงนั้นไม่ถึงขั้นเป็น “พายุโซนร้อน” อาจเป็นเพียงแค่ “พายุดีเปรสชัน” แต่อย่างไรก็ต้องประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง ว่าหนักเบาเพียงใด โดยคาดว่าสถานการณ์ จะจบลงในช่วงกลางเดือนต.ค. หลังจากนั้นสถานการณ์ฝนจะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้น ศปช. จะดำเนินการเฉพาะหน้า เพื่อจัดการปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไปจนจบสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าจะจบในปีนี้
สำหรับกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า สภาพอากาศในเดือน ตุลาคม 2567 หรือ เดือนหน้านั้น จะเป็น เดือนนี้เป็นช่วงเปลี่ยนจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ในช่วงต้นและกลางเดือนบริเวณประเทศไทยตอนบนลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยมี ฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ และมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าเป็นระยะๆ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้น ฝนจะลดลงและมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร
เนื่องจากในช่วงต้นและกลางเดือนบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะ ๆ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยเริ่มเปลี่ยนเป็นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมแทน นอกจากนี้ จะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบนในบางช่วง
สรุปเดือนนี้ คาดว่า ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนรวมใกล้เคียงค่าปกติ และมีอุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าปกติ
นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคมสภาพอากาศ จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงหรือ “พายุหมุนเขตร้อน” เคลื่อนตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง และมีโอกาสสูงที่จะเคลื่อนผ่านเข้าใกล้ประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกเป็นบริเวณกว้าง จึงขอให้ประชาชนและชาวเรือติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและคำเตือนเรื่องพายุหมุนเขตร้อนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดไว้ด้วย
ข้อมูลจาก: กรมอุตุนิยมวิทยา
ภาพจาก: AFP
ข่าวแนะนำ