ร้อนจัดจน "รางรถไฟโก่ง" ช่วงสถานีร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีฯ
การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงอากาศร้อนจัด เป็นสาเหตุทำให้รางรถไฟเกิดคดงอ ช่วงสถานีร่อนพิบูลย์ – สถานีชุมทางเขาชุมทอง จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขและเดินขบวนรถได้ตามปกติแล้ว
สภาพอากาศที่ร้อนจัดทั่วประเทศแตะ 43 องศาเซลเซียสมาหลายวัน ซึ่งนอกจากกระทบกับสุขภาพของคนแล้ว ยังกระทบกับรางรถไฟระหว่างสถานีร่อนพิบูลย์ – สถานีชุมทางเขาชุมทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะคดงอ รวมระยะทางประมาณ 100 เมตร ซึ่งต้องหยุดเดินขบวนรถชั่วคราวเพื่อฉีดน้ำคลายความร้อน ให้รางรถไฟคืนสภาพ และสามารถเดินขบวนรถได้ตามปกติ
ซึ่ง นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 14.20 น. โดยเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ได้ตรวจพบรางรถไฟเกิดการคดงอ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ประกอบกับเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่งผลกระทบให้หมอนคอนกรีต รองรางรถไฟ ซึ่งอยู่ในบริเวณที่โล่งแจ้ง เกิดการขยายตัว และเกิดแรงเค้นภายในรางสูงมากขึ้น เป็นเหตุให้แนวรางรถไฟมีลักษณะโก่งงอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟฯ ร่วมกับมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ ได้นำน้ำ และน้ำแข็ง มาฉีดบรรเทาความร้อน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง รางรถไฟจึงกลับคืนสภาพตามปกติ
ขณะเดียวกันได้ทำการตรวจสอบสภาพทางตลอดแนวเส้นทางรถไฟ และจะทำการเพิ่มหินโรยทางในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อรักษาแนวรางรถไฟให้อยู่ในสภาพมั่งคงและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม จากสภาพอากาศที่ร้อนในปัจจุบัน ทำให้เหล็กรางรถไฟ เกิดการยืดตัวตามหลักวิศวกรรม ซึ่งสามารถแก้ไขได้ โดยการรถไฟฯ มีการตรวจสภาพทางโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธาเป็นประจำทุกวัน
นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายให้ ฝ่ายการช่างโยธา เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบสภาพทางรถไฟทั่วประเทศ ทั้งเรื่องของรางรถไฟที่เกิดจากความร้อน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่กลางแจ้งสองข้างทางรถไฟ รวมถึงให้นายสถานีทุกพื้นที่อำนวยความสะดวกและดูแลการเดินทางแก่ผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกสบาย พร้อมรับมือกับสภาวะอากาศร้อนที่เกิดขึ้น ตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาภายในช่วงนี้
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ขอให้ประชาชนมั่นใจถึงความปลอดภัยในการเดินขบวนรถ ซึ่งการรถไฟฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการ
ที่มา: ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
_____
ข่าวแนะนำ
