ทะเลเดือดของจริง! อุณหภูมิน้ำสูงจนน่าสะพรึง เสี่ยงปะการังฟอกขาว
ผศ.ดร.ธรณ์ เปิดข้อมูลอุณหภูมิน้ำทะเลสูงระดับน่าห่วง เสี่ยงปะการังฟอกขาว สัตว์น้ำชายฝั่งลดลง พร้อมแนะวิธีช่วยลดโลกร้อน
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ว่า
ทะเลเดือดของจริงมาถึงแล้ว เตือนเพื่อนธรณ์มาตั้งแต่ปีก่อน เอลนีโญบวกโลกร้อนจะทำให้ทะเลเดือด เมื่อวานพูดถึงอุณหภูมิน้ำที่สูงจนน่าสะพรึง วันนี้สูงกว่าเมื่อวานครับ เมื่อเทียบกับต้นเมษายนปีก่อน น้ำแถวภาคตะวันออกร้อนกว่าเยอะ ยังเป็นน้ำร้อนประหลาด กลางคืนก็แทบไม่เย็นลง แช่อยู่ที่ 31.5+ องศา
กลางวันไม่ต้องพูดถึง น้ำช่วงนี้ร้อนเกิน 32 องศาเกือบทั้งวัน ที่สำคัญคือช่วงนี้เพิ่งเริ่มพีค (ดูภาพประกอบ จุดแดงคือน้ำร้อนวัดบ่ายเมื่อวาน)
พีคน้ำร้อนของทะเลไทยอยู่ที่ปลายเมษายน/พฤษภาคม สถิติในปีก่อนๆ บอกว่าน้ำอาจร้อนกว่าต้นเมษายน 1 องศา หมายถึงปีนี้ในช่วงนั้น น้ำทะเลอาจร้อนเกิน 33+ องศา ขาดอีกนิดเดียวก็ออนเซนแล้วครับ (38 องศา)
ต้องอธิบายให้เข้าใจว่า จุดที่เราวัดลึก 3-5 เมตร มิใช่น้ำแค่เข่าแค่เอวริมชายฝั่ง แถวนั้นน้ำจะร้อนยิ่งกว่า ถ้าวันไหนแดดแรงๆ จะร้อนจัด อาบแดดแช่ออนเซนอาจเป็นสโลแกนใหม่เที่ยวทะเลไทยในไม่ช้า
น้ำร้อนส่งผลอะไรบ้าง ?
ปะการังฟอกขาว เรื่องนั้นแน่นอน หากร้อนระดับนี้ต่อไปอีก 2-3 สัปดาห์ ผมว่าเราจะเริ่มเห็นในบางพื้นที่ เช่น ภาคตะวันออก
NOAA ประกาศเตือนอีก 4-8 สัปดาห์ อาจเกิดปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ในแถบบ้านเรา
ปะการังฟอกขาวทำให้เราต้องปิดจุดท่องเที่ยว ถ้าต้องปิดเยอะ ส่งผลกระทบแน่ โดยเฉพาะช่วงเที่ยวทะเล
สัตว์น้ำชายฝั่งลดลง เมื่อน้ำร้อนจัด ออกซิเจนในน้ำลดลง ปลายังต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้นตามเมตาโบลิซึมร่างกาย สัตว์เล็กอยู่ไม่ได้ ปลาไม่มีอาหารเพียงพอ
สัตว์ล้วนมีลิมิตของสภาพแวดล้อมที่ตัวเองอยู่ได้ ปลาไม่มีแอร์ ปลาต้องว่ายหนีไปที่ลึก แต่ชาวประมงพื้นบ้านตามไปจับไม่ได้ เพราะออกไปไกลเกิน
เราไปเที่ยวทะเล หวังอยากกินอาหารทะเลสดๆ ซีฟู้ดราคารับได้ อาจไม่ได้กินอย่างที่คาดไว้
การเพาะเลี้ยงเดือดร้อน ปลาในทะเลยังว่ายหนีได้ แต่ปลาในกระชังไปไม่ได้ น้ำร้อนจัดอาจเสี่ยงกับสัตว์ตายยกกระชัง หนี้สินมหาศาลในชั่วข้ามคืน
หอยหรือสัตว์น้ำอื่นๆ ก็เกิดผลกระทบ โตช้า ตัวเล็ก หรือไม่ก็ตายไปเลย
น้ำเขียวมาถี่ น้ำร้อนทำให้แพลงก์ตอนบลูมง่าย เป็นเหตุการณ์ที่เตือนกันไว้ทั่วโลก
ปีที่แล้วทะเลไทยเกิดแพลงก์ตอนบลูม 70+ ครั้ง มากกว่าเมื่อ 15-20 ปีก่อน ประมาณ 5 เท่า
ชายฝั่งตะวันออกคือเขตน้ำร้อนจัดในไทย (น้ำทะเลร้อนไม่เท่ากัน) แถวนั้นเป็นเขตฮอตสปอตของน้ำเขียวอยู่แล้ว น้ำร้อนขนาดนี้ยิ่งน่าห่วง
พายุฤดูร้อนที่มาปุ๊บ ฝนถล่มน้ำท่วมฉับพลันเป็นจุดๆ ตามที่เคยเกิดเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ยังกวาดเอาธาตุอาหารลงทะเล ช่วยกระตุ้นให้เกิดน้ำเขียวง่าย
ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง เท่าที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นแนวปะการังหลายแห่ง แหล่งหญ้าทะเล มันก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว
เปรียบเสมือนคนป่วยที่โดนโรครุมเร้า น้ำร้อนจัดในครั้งนี้อาจเป็นตัวปิดจ๊อปสำหรับแนวปะการังหรือแหล่งหญ้าทะเลบางแห่ง ทั้งหมดนั้น เราทำอะไรกับน้ำร้อนไม่ได้ แต่เราช่วยลดโลกร้อนทุกทางได้ ช่วยบรรเทาผลกระทบอื่นๆ เช่น ขยะทะเล น้ำทิ้ง เที่ยวทำลายล้าง ฯลฯ เรายังต้องป้อมเตรียมรับมือและปรับตัวกับเหตุการณ์น้ำร้อนเป็นประวัติการณ์เช่นนี้ได้ เตรียมตัวไว้ให้ดี ทะเลเดือดของจริงมาถึงแล้ว จะมารายงานสถานการณ์ให้เพื่อนธรณ์เรื่อยๆ ครับ
ข่าวแนะนำ