TNN กทม.ปิดไฟ 1 ชม. ลดโลกร้อน เท่ากับต้นไม้ 1,100 ต้นดูดคาร์บอนฯ/ปี ลดค่าไฟได้กว่า 1.3 แสนบาท

TNN

Earth

กทม.ปิดไฟ 1 ชม. ลดโลกร้อน เท่ากับต้นไม้ 1,100 ต้นดูดคาร์บอนฯ/ปี ลดค่าไฟได้กว่า 1.3 แสนบาท

กทม.ปิดไฟ 1 ชม. ลดโลกร้อน  เท่ากับต้นไม้ 1,100 ต้นดูดคาร์บอนฯ/ปี  ลดค่าไฟได้กว่า 1.3 แสนบาท

กรุงเทพมหานคร เผยผลการจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ปี 2567” (60+ Earth Hour 2024) ลดความต้องการใช้ไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ลงได้ 24.65 เมกะวัตต์ เท่ากับลดค่ากระแสไฟฟ้าได้ 1.3 แสนบาท

นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร สรุปกิจกรรม ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ปี 2567 (60+ Earth Hour 2024) ที่ กทม. และภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อรณรงค์และเชิญชวนผู้ประกอบการ ร้านค้า ประชาชน ลดการใช้พลังงาน โดยการปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมกับเมืองต่าง ๆ กว่า 7,000 เมือง ใน 190 ประเทศทั่วโลก ระหว่างเวลา 20.30 – 21.30 นาฬิกา ของวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทุกภาคส่วนได้ให้ความร่วมมือปิดไฟในช่วงดังกล่าว


โดยในปีนี้ 5 แลนด์มาร์คหลักของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า สะพานพระราม 8 และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) ได้ร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ด้วย


จากการคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงเวลาดังกล่าว โดยการไฟฟ้านครหลวง พบว่า กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ปี 2567 นี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 24.65 เมกะวัตต์ ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 11 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบได้กับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 1,100 ต้น ใน 1 ปี (ต้นไม้ยืนต้น 1 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10 กิโลกรัมต่อปี) และสามารถลดค่าไฟฟ้าลงได้ 130,182 บาท


ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ให้ความสำคัญต่อปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลก จึงได้รณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึก ให้ประชาชนและทุกภาคส่วน เห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง


ที่มา: เฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร 

ข่าวแนะนำ