TNN "เต่ามะเฟือง" ขึ้นวางไข่ ใกล้รันเวย์สนามบินภูเก็ต ยืนยันความเป็นแหล่งท่องเที่ยวสีเขียว

TNN

Earth

"เต่ามะเฟือง" ขึ้นวางไข่ ใกล้รันเวย์สนามบินภูเก็ต ยืนยันความเป็นแหล่งท่องเที่ยวสีเขียว

เต่ามะเฟือง ขึ้นวางไข่  ใกล้รันเวย์สนามบินภูเก็ต ยืนยันความเป็นแหล่งท่องเที่ยวสีเขียว

สุดมหัศจรรย์! เต่ามะเฟือง ขึ้นมาวางไข่ใกล้กับรันเวย์สนามบินภูเก็ต ยืนยันความเป็นแหล่งท่องเที่ยวสีเขียว คาดเป็นตัวเดียวกับที่เคยขึ้นมาวางไข่เมื่อ 4 ปีก่อน

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สน.2 (ท่าฉัตรไชย) หรือจุดถ่ายรูปเครื่องบินขึ้น-ลงสนามบินภูเก็ต หาดไม้ขาว  หลังรับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านไม้ขาว ว่าพบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล


จากการตรวจสอบ พบเป็นร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟือง วัดขนาดความกว้างหน้าอกได้ 110 เซนติเมตร ความกว้าง 190 เซนติเมตร  ความลึกหลุมไข่ 60 เซนติเมตร ความกว้างหลุมไข่ 45 เซนติเมตร  


จากการประเมินพบว่า ตำแหน่งหลุมไข่อยู่พ้นแนวน้ำขึ้นสูงสุด จึงไม่ย้ายหลุมเพาะฟัก และจัดทำคอกกั้น ปล่อยให้เต่าเพาะฟักไข่เองตามธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดเวลา สำหรับไข่เต่ามะเฟืองจะใช้เวลาเพาะฟักประมาณ 55-60 วัน คาดว่าลูกเต่าจะฟักออกจากไข่ ระหว่างวันที่ 5-10 พฤษภาคมนี้ 


ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เต่ามะเฟืองซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากของโลก ขึ้นมาวางไข่ใกล้รันเวย์สนามบินภูเก็ต ถือเป็นภาพที่มหัศจรรรย์จริงๆ  สามารถยืนยันความเป็นแหล่งท่องเที่ยวสีเขียว หรือ Green Tourism ของภูเก็ตได้เป็นอย่างดี โดยรังนี้น่าจะเป็นรังแรกของแม่เต่าตัวนี้ เจ้าหน้าที่ขุดเจอไข่แล้ว กำลังวางแผนดูแลรักษาต่อไป ในอดีตเคยมีแม่เต่ามาวางไข่แถวหน้ารันเวย์ ตั้งแต่ปี 2563  เว้นไปนาน 4 ปี ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเป็นแม่เต่าตัวเดิมที่เคยขึ้นมาวางไข่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมตั้งชื่อให้ แม่เต่าตัวนี้ว่า "เต่า AOT"


สำหรับเต่ามะเฟือง เป็นเต่าชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในบรรดาสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่จนถึงปัจจุบัน  กระดองจะมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับผลมะเฟือง และครีบคู่หน้าไม่มีเล็บ สามารถดำน้ำได้ลึกถึง 1,280 เมตร  เต่ามะเฟืองเพศเมียจะขึ้นมาวางไข่บนชายหาด ครั้งละประมาณ 66-104 ฟอง ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ สภาพอากาศ สภาพแวดล้อม หลังจากฟักตัวแล้ว ลูกเต่าจะคลานออกจากรัง ลงสู่ทะเลทันที เนื่องจากเป็นเต่าน้ำลึก จึงไม่สามารถเก็บมาอนุบาลได้เป็นเวลานาน ต่างกับเต่าทะเลสายพันธุ์อื่น ในวัยเจริญพันธุ์จะเติบโตและใช้เวลาอยู่ในทะเลเกือบชั่วชีวิต ปัจจุบัน มีสถานะเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ พุทธศักราช 2562


ที่มา: ข่าวภูมิภาค Tnn ช่อง 16


ข่าวแนะนำ