TNN อากาศหนาวจะไม่มีแล้วใช่ไหม? อุตุฯ ตอบแล้วยังมีให้ลุ้น ช่วงไหนเช็กเลยที่นี่

TNN

Earth

อากาศหนาวจะไม่มีแล้วใช่ไหม? อุตุฯ ตอบแล้วยังมีให้ลุ้น ช่วงไหนเช็กเลยที่นี่

อากาศหนาวจะไม่มีแล้วใช่ไหม? อุตุฯ ตอบแล้วยังมีให้ลุ้น ช่วงไหนเช็กเลยที่นี่

อุตุฯตอบแล้ว อากาศหนาวจะไม่มีแล้วใช่ไหม ? เผย ยังมีให้ลุ้นช่วงปลายเดือน คือช่วงวันที่ 22- 25 ม.ค.67

อุตุฯตอบแล้ว อากาศหนาวจะไม่มีแล้วใช่ไหม ? เผย ยังมีให้ลุ้นช่วงปลายเดือน คือช่วงวันที่ 22- 25 ม.ค.67


พยากรณ์อากาศ ภายหลังจาก กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ ไทยเจออากาศแปรปรวนถึง 16 มกราคม 2567 โดยทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง 


ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในตอนเช้าในระยะนี้ไว้ด้วย


ทั้งนี้ มีประชาชนสงสัยสอบถามอากาศหนาวจะไม่มีแล้วใช่ไหม ? กรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า ยังมีให้ลุ้นช่วงปลายเดือน คือช่วงวันที่ 22- 25 ม.ค.67 ต้องติดตาม (ข้อมูลนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้) 




พร้อมกันนี้ยังได้เผย การพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ทุกๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 15 -24 ม.ค. 67 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) : ช่วงสัปดาห์นี้อากาศยังมีเปลี่ยนแปลง 


โดยช่วง 15 - 17 ม.ค.67 มวลอากาศเย็นยังแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมหนาว) ยังพัดปกคลุมในระดับล่าง ส่วนระดับบนยังมีกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนช่วงแรก (16-17 ม.ค.) ภาคเหนือตอนบนยังมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง เช้าอากาศเย็น กลางวันอากาศร้อน 


สำหรับภาคใต้ยังมีฝนบางแห่ง ส่วนมากบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและตอนล่าง คลื่นลมยังมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง บริเวณ และ ช่วง 18-21 ม.ค.67 มวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมมีกำลังอ่อนลง ลมมีกำลังอ่อน ทิศทางแปรปรวน
  

ช่วง 22- 24 ม.ค. มีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจะแผ่เสริมลงมาปกคลุม ภาคอีสาน ในช่วงแรกๆ มีลมใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก ทำให้มีฝนเกิดขึ้นบางแห่ง อุณหภูมิลดลงในบริเวณภาคอีสาน ส่วน กทม.และปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล้กน้อย 

(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ภายใต้สถานการณ์ปรากฎการณ์เอลนีโญกำลังแรง ซึ่งทำให้สภาวะลมหนาว ฝนและพายุเปลี่ยนแปลงไป ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ)




คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 14 – 20 มกราคม พ.ศ. 2567

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 14 – 17 ม.ค. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในช่วงวันที่ 14 – 16 ม.ค. 67 หลังจากนั้น อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 14 - 17 ม.ค. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในช่วงวันที่ 14 – 16 ม.ค. 67 โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.


ส่วนในวันที่ 18 – 20 ม.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 14 - 17 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.


ส่วนในช่วงวันที่ 18 – 20 ม.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 14 - 17 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส


ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 20 ม.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ในวันที่ 14 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 15 – 20 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาคในช่วงวันที่ 15 - 18 ม.ค. 67
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 14 - 17 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.


ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 20 ม.ค. 67 มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.





ที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา

ภาพจาก TNN Online / กรมอุตุฯ

ข่าวแนะนำ