โลกร้อนกระทบน้ำทะเลทั่วโลก มรสุมแรง-ชายฝั่งฝนเพิ่ม

ศูนย์ข้อมูลหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NSIDC แถลงว่า น้ำแข็งในทะเลในมหาสมุทรรอบทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกใต้ ลดระดับลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในฤดูหนาว นักวิจัยเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลร้ายแรงต่อสัตว์ต่าง ๆ เช่น เพนกวิน ที่ผสมพันธุ์และเลี้ยงลูกบนน้ำแข็งในทะเล และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น นักวิทยาศาสตร์นานาชาติ คาดการณ์ว่าน้ำแข็งขั้วโลกมีปริมาณลดลงและอาจหายไปหมดในอีก 100 ปีข้างหน้า เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำจืดจะเพิ่มขึ้น การไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรจะเปลี่ยนไป ซึ่งนำมาสู่ภัยพิบัติในอนาคตที่อาจรุนแรงกว่าเดิม ไม่เพียงแต่ขั้วโลกใต้เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ NASA พบว่า น้ำแข็งในขั้วโลกเหนืออย่างกรีนแลนด์ ละลายเร็วขึ้น น้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายไวขึ้น 6-7 เท่า เมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน และ น้ำแข็งกรีนแลนด์ได้หายไปถึง 4,700 ล้านตัน มีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 1.2 เซนติเมตร สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งฝั่งทะเลจีนใต้และทะเลอันดามัน ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน มีงานวิจัยพบว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนจะทำให้มวลอากาศชื้นจากทะเลสูงขึ้น และพัดเข้าชายฝั่งมากขึ้น ส่งผลให้มรสุมก็จะมีกำลังแรงมากขึ้น ระดับน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งจึงเพิ่มขึ้นได้ วิกฤตปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตอนนี้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาบนเวทีโลกบ่อยครั้ง เนื่องจากผลกระทบของภาวะโลกร้อนเริ่มปรากฏให้เห็นชัดขึ้นทั่วโลกนั่นเอง