พยากรณ์อากาศ 19 - 25 พฤศจิกายน 2566 ทั่วไทยอากาศเย็น แต่ละภาคอุณหภูมิต่ำสุดกี่องศาฯ
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ระหว่าง 19 - 25 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง แต่ละภาคอุณหภูมิต่ำสุดกี่องศาเซลเซียส
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ระหว่าง 19 - 25 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง แต่ละภาคอุณหภูมิต่ำสุดกี่องศาเซลเซียส
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 19 – 25 พฤศจิกายน 2566 ในช่วงวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนช่วงวันที่ 21 – 25 พฤศจิกายน 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2 - 4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า
ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวน ส่งผลให้มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคง มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2566 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น กับมีลมแรง ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 นี้ไว้ด้วย
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 19 – 25 พฤศจิกายน 2566
ภาคเหนือ
ช่วงวันที่ 19 - 20 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7 - 15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 25 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ช่วงวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7 - 15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 25 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 - 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12 - 18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคกลาง
ช่วงวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงที่ 21 – 25 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ช่วงวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงที่ 21 – 25 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ช่วงวันที่ 20 - 25 พฤศจิกายน 2566 ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตอนล่าง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ช่วงวันที่ 20 - 23 พฤศจิกายน 2566 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ช่วงวันที่ 20 - 25 พฤศจิกายน 2566 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค
ช่วงวันที่ 20 – 23 พฤศจิกายน 2566 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ช่วงวันที่ 19 - 20 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงที่ 21 - 25 พฤศจิกายน 2566 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.ลำปาง