โลกร้อนอาจทำให้อาหารบางอย่างหายไป

ยกตัวอย่าง 5 วัตถุดิบที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และเสี่ยงที่จะลงในอนาคต 1. กล้วย ส่วนใหญ่มาจากทวีปเอเชีย อเมริกาใต้ และแอฟริกา แม้ว่า “กล้วย” จะเติบโตได้ดีในประเทศ “เขตร้อน” แต่หากร้อนเกินไปก็จะทำให้ถูกคุกคามจากโรคเชื้อราอย่าง “โรคปานามา” และ “โรคซิกาโตกา” ที่ทำให้พืชตายจากการขาดน้ำได้ 2. ช็อกโกแลต ข้อมูลจากโนอา ระบุว่า ประเทศผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่อย่าง “กานา” และ “โกตดิวัวร์” มีแนวโน้มลดการผลิตโกโก้ลงภายในปี 2050 ยิ่งไปกว่านั้น ต้นโกโก้อาจสูญพันธุ์ภายในปี 2050 อากาศร้อนไม่ได้ทำลายต้นโกโก้โดยตรง แต่จะส่งผลให้ใบไม้คายน้ำเร็วขึ้นระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แสงซึ่งจะส่งผลกระทบกับผลผลิต 3. สตรอว์เบอร์รี เป็นผลไม้ที่เติบโตได้ดีในอุณหภูมิหนาวเย็นถึงอบอุ่น อากาศที่ร้อนขึ้นกระทบไปถึงห่วงโซ่การผลิตของฟาร์มในรัฐแคลิฟอร์เนียและฟลอริดา สหรัฐฯ ที่ซึ่งเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รีมากถึง 95 เปอร์เซ็นต์ต่อสัดส่วนการปลูกทั้งสหรัฐ อากาศที่ร้อนขึ้นทำให้สตรอว์เบอร์รีออกดอกช้า ผลผลิตลดลง 4. อะโวคาโด นักวิทยาศาสตร์คาดว่า อะโวคาโดจะสูญพันธุ์ภายในปี2050 เพราะธรรมชาติของ “อะโวคาโด” เป็นพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณมากเฉลี่ย 72 แกลลอนต่อผลผลิต 1 ลูก ประเทศที่มีการปลูกพืชชนิดนี้มาก ได้แก่ เม็กซิโก กัวเตมาลา โคลอมเบีย เปรู ซึ่งก็พบว่า ในปีที่ผ่านมาประเทศเหล่านี้ล้วนประสบปัญหาอากาศร้อนแห้งแล้ง กระทบต่อหน้าดินในการเพาะปลูก 5. ไวน์ มหาวิทยาลัยโทรอนโต (Toronto University) ระบุถึงแนวโน้มการผลิตไวน์ที่ลดลง โดยมีการคาดการณ์ว่า อีก 50 ปีข้างหน้า “ไวน์” จะมีปริมาณลดลง 85 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากภูมิภาคที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตไวน์ อย่างฝรั่งเศส (France), อิตาลี (Italy), สเปน (Spain), อเมริกา (America)จะมีอากาศที่ “ร้อนเกินไป” สำหรับการผลิตไวน์ จากข้อมูลต่างๆเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นว่า ถ้าอุณหภูมิโลกของเรายังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็มีความเป็นไปได้ว่า อาหารการกินที่เราคุ้นชินกัน อาจลดลงหรือหายไปในอนาคต