ยุคโลกเดือด อากาศร้อนจัด เพิ่มความเสี่ยงปัญหาสุขภาพ
หลังจากที่ UN ประกาศว่าโลกเข้าสู่ภาวะโลกเดือดแล้ว ทำให้หลายภาคส่วนกังวลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
จากการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พบว่าตั้งแต่ปี 2558–2565 มีอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิในมหาสมุทรฝั่งเอเชีย มีอัตราร้อนขึ้นเกิน 0.5 องศาเซลเซียสต่อ 10 ปี เร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกประมาณ 3 เท่า สำหรับประเทศไทย พบว่าในปี 2566 มีแนวโน้มอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1.5 องศาเซลเซียส โดยเมื่อวันที่ 16 เม.ย.2566 ที่จ.ตาก มีอุณหภูมิสูงสุด 44.6 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับอันตรายมาก และคาดว่าจะมีแนวโน้มรุนแรงอย่างต่อเนื่องถึงเดือนเม.ย.2567 เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังได้คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากความร้อนในอัตรา 58 ต่อแสนประชากร หรือ 14,000 คน ภายในปี 2623 หรือในอีก 57 ปีข้างหน้า ยุคโลกเดือด (Global Boiling) ได้เริ่มขึ้นแล้ว และน่ากลัวมากเพราะอาจส่งผลให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ เช่น ไฟไหม้ป่า ภัยแล้ง น้ำท่วมฉับพลันเพิ่มขึ้น และรุนแรงมากขึ้นทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยจากมลพิษทางอากาศและภัยแล้ง การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากภัยธรรมชาติ รวมถึงการเสียชีวิตจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ดังนั้นจึงมีคำเตือนให้ทั่วโลกเตรียมรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ป้องกันไม่ให้โลกเดือดไปมากกว่าเดิม ช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เลือกใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียน เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด