TNN ผลกระทบของ "พายุสุริยะ" ที่มีต่อโลก มีความรุนแรงมากแค่ไหน?

TNN

Earth

ผลกระทบของ "พายุสุริยะ" ที่มีต่อโลก มีความรุนแรงมากแค่ไหน?

ผลกระทบของ พายุสุริยะ ที่มีต่อโลก มีความรุนแรงมากแค่ไหน?

ผลกระทบของ "พายุสุริยะ" ที่มีต่อโลก มีอะไรบ้างและหากเกิดขึ้นมีความรุนแรงมากแค่ไหน?

ผลกระทบของ "พายุสุริยะ" ที่มีต่อโลก มีอะไรบ้างและหากเกิดขึ้นมีความรุนแรงมากแค่ไหน?


เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา คีธ สตรอง (Keith Strong) นักฟิสิกส์พลังงานแสงอาทิตย์และผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสภาพอากาศอวกาศที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด (Space Weather Technology Center at the University of Colorado) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลผ่านทวิตเตอร์ (Twitter) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าจำนวนจุดดับ (Sunspot) บนดวงอาทิตย์เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา สูงถึง 163 จุด และสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2002 โดยอาจส่งผลให้เกิดพายุสุริยะรุนแรงกระทบมาถึงโลกของเรา

จุดดับบนดวงอาทิตย์ 

คือบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณอื่นบนดวงอาทิตย์และมีสนามแม่เหล็กปั่นป่วนสูง ซึ่งจำนวนจุดดับบนดวงอาทิตย์มีความสัมพันธ์กับการปลดปล่อยมวลของดวงอาทิตย์ (Coronal Mass Ejection) และเมื่อมีการปลดปล่อยมวลของดวงอาทิตย์มาก มันจะกลายเป็นพายุสุริยะ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับดาวเทียมในวงโคจรรอบโลก

พายุสุริยะ (Solar storm) 

เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดจากการที่ผิวดวงอาทิตย์ระเบิดขึ้นมา ซึ่งทำให้อนุภาคประจุไฟฟ้าพุ่งออกมาจำนวนมหาศาล ประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกมานี้จะรบกวนระบบการสื่อสาร ส่งผลทำให้การสื่อสารโทรคมนาคมเป็นอัมพาต เช่น ทำให้เครื่องบินไม่สามารถติดต่อกับหอบังคับการได้ โทรศัพท์มือถือใช้งานไม่ได้ รวมไปถึงดาวเทียมเสียหาย

ผลกระทบของพายุสุริยะที่มีต่อโลก 

องค์การมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ระบุผลกระทบจากพายุสุริยะใว้ใน 3 ลักษณะ 

- พายุแม่เหล็กโลก

- พายุรังสีสุริยะ

- การขาดหายของสัญญาณวิทยุ

รูปแบบการเกิดพายุสุริยะ

- ลมสุริยะ    

- เปลวสุริยะ            

- การปลดปล่อยก้อนมวลสารจากโคโรนา    

- อนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์

เมื่อพายุสุริยะจะปลดปล่อยพลาสมาออกมา และเดินทางมายังโลกเพียงบางส่วน เมื่ออนุภาคเดินทางเข้าสู่ชั้นไอโอโนสเฟียร์ และชั้นบรรยากาศเหนือขั้วโลก มันจะทำปฏิกิริยากับก๊าซที่อยู่ในชั้นบรรยากาศและปล่อยพลังงานออกมาในปริมาณมาก การทำปฏิกิริยาดังกล่าวจะทำให้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้มีโอกาสได้เห็น ออโรรา

นอกจากนี้ พลาสมาที่เดินทางมา จะส่งผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กของโลก ทำให้ส่งผลต่อโทรทัศน์ สัญญาณโทรศัพท์ และระบบนำทางของเครื่องบินหรือเรือเดินสมุทร 

นอกจากนี้ ยังทำให้ท่อส่งน้ำมันผุกร่อนได้เร็วกว่าปกติมาก และขณะที่สนามแม่เหล็กโลกถูกแรงของพลาสมาทั้งดึงและดันอยู่ จะทำให้ประจุไฟฟ้าปริมาณมากเกิดขึ้นในอวกาศ อาจทำให้ดาวเทียมเกิดประจุไฟฟ้าบริเวณรอบนอก กระแสฟ้าที่เกิดขึ้นนี้อาจถูกปล่อยเข้าไปภายในดาวเทียมและอาจทำให้เกิดความผิดปกติหรือเสียหายได้ แต่ถ้าพลาสมาเดินทางมายังโลกเป็นปริมาณเยอะ (การปลดปล่อยก้อนมวลสารจากโคโรนา) จะทำให้ส่งผลต่อระบบการส่งกระแสไฟฟ้าบนโลก  


ภาพจาก reuters

ข่าวแนะนำ