สัญญาณดี! สถิติการตัดไม้ทำลายป่าแอมะซอนลดลง 68%

มีรายงานว่า การตัดไม้ทำลายป่าฝนหรือป่าดิบชื้นแอมะซอนในบราซิล ลดลงร้อยละ 68 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาจากปีก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณบวกสำหรับประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล เพราะเป็นการลดลงครั้งใหญ่ครั้งแรกภายใต้การบริหารประเทศของเขา โดยลูลา ให้คำมั่นสัญญาว่าจะยุติการตัดไม้ทำลายป่าแอมะซอน หลังการทำลายป่าดิบชื้นแห่งนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายปี โดยพบว่าพื้นที่ป่าแอมะซอนถูกทำลายไป 328.71 ตารางกิโลเมตร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตซึ่งอยู่ที่ 455.75 ตารางกิโลเมตรในเดือนเมษายน ซึ่งถ้าหากดูสถิติการตัดไม้ทำลายป่าในป่าแอมะซอน จะพบว่านับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา พื้นที่ป่าถูกทำลายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพุ่งสูงมากที่สุดคือปีที่แล้ว ปี2565 พบว่าพื้นที่ป่าถูกทำลายไปมากถึง 10,573 ตารางกิโลเมตร รองลงมาคือในปี 2564 ที่ถูกทำลายไป 10,362 ตารางกิโลเมตร นับเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และหลายฝ่ายก็คาดหวังว่าถึงเวลาที่ควรจะปกป้องป่าแอมะซอนอย่างจริงจัง เพราะ ป่าแอมะซอนนั้นช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำลายชั้นบรรยากาศโลกเฉลี่ยปีละกว่า 1,200 ล้านตัน และยังช่วยผลิตออกซิเจนให้กับโลกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีไม้ยืนต้นมากกว่า 390,000 ล้านต้น และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตมากกว่า 16,000 สายพันธุ์ แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังเร็วเกินที่จะยืนยันว่าแนวโน้มการทำลายป่าแอมะซอนในปีนี้ลดลง เพราะช่วงเวลาการทำลายป่าสูงสุดประจำปี จะอยู่ในช่วงเดือนเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน แต่อย่างน้อยในช่วงต้นปีก็ยังได้เห็นสัญญาณบวกขึ้นมาบ้างแล้ว