ศธ.ยืนยัน 1 พ.ย.เปิดเรียนบางพื้นที่ รอ ศบค.เคาะหลักเกณฑ์ประเมินเปิดโรงเรียน
กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันความพร้อมเปิดภาคเรียน 1 พ.ย.นี้ โดยพิจารณาเป็นรายพื้นที่จากปัจจัยการแพร่ระบาดและการฉีดวัคซีน รอศบค.สรุปสัปดาห์หน้า ขณะที่ "อนุทิน" ย้ำเด็กอายุ 12-17 รับวัคซีนได้ทุกคน พร้อมสั่งการเปิดระบบให้กลุ่มเด็กลงทะเบียนรับวัคซีนได้โดยตรง
วันนี้ (20 ต.ค.64) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นางตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาและพัฒนาสุขภาพของผู้เรียนทุกช่วงวัย ผ่านโครงการสถาบันพระบรมราชชนก “สบช.สัญจร “
นายอนุทิน ระบุถึงความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการเป็นการก่อเกิดรับบการรับรู้เรื่องสุขภาพให้กับผู้เรียน ช่วยกระจายโอกาสการศึกษาในพื้นที่ท้องถิ่นทุรกันดารที่จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าถึงการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ความรอบรู้ด้านสุขภาพ
ส่วนเป้าหมายของการฉีดวัคซีนในกลุ่มนักเรียน ขณะนี้มีนักเรียนได้รับวัคซีนแล้ว 1.3 ล้านโดส จากเป้าหมายนักเรียน 4 ล้านคน ส่วนกลุ่มของนักเรียนนอกระบบการศึกษาสามารถเข้ารับวัคซีนได้ตามเกณฑ์ช่วงอายุ ย้ำว่ากลุ่มเด็ก 12-17 ปีทุกคนจะได้รับวัคซีน
โดยในวันพรุ่งนี้ 21 ต.ค.64 จะสั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำชับในที่ประชุม EOC ของกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัด และหน่วยสาธารณสุขในทุกพื้นที่เปิดให้กลุ่มเด็ก 12-17 ปี สามารถลงทะเบียนและเข้ารับวัคซีนได้โดยตรงโดยมีผู้ปกครองยินยอม
ด้าน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุถึงความพร้อมในการเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยระบุว่า การเปิดเทอม 1 พ.ย.ยังไม่เปิดพร้อมกันทั่วประเทศ แต่จะเป็นการพิจารณาหลายพื้นที่ จากปัจจัยการแพร่ระบาด สภาพแวดล้อม และการรับวัคซีนโควิด
ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการกำลังวางแผนกรอบเป้าหมายในการเปิดเรียนโดยให้พิจารณาจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดในทุกพื้นที่ เบื้องต้นให้โรงเรียนประเมิน และทยอยเปิดเรียนตามความพร้อม ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะนำข้อมูลเงื่อนไขประเมินแต่ละพื้นที่เสนอไปยัง ศบค.ในการพิจารณาแนวทางการเปิดเรียน ซึ่งหากผ่าน ทางคณะกรรมการจังหวัดก็สามารถพิจารณาเปิดเรียนในพื้นที่ได้
โดยพื้นที่ซึ่งพบการระบาดจะให้พิจารณาเป็นรายพื้นที่ เช่น ระดับอำเภอ หรือ ตำบล ที่ไม่พบการระบาด 2-3 เดือนต่อเนื่อง ก็สามารถเปิดการเรียนการสอนได้
ส่วนในพื้นที่ภาคใต้การเปิดเรียนในห้องเรียนตามปกติขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสาธารณสุขจังหวัด หากยังพบมีการแพร่ระบาดสามารถพิจารณาเกณฑ์การเรียนรู้แบบออนไลน์ที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ได้
ส่วนนักเรียนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน น.ส.ตรีนุช ยืนยันว่าสามารถเรียนได้ตามปกติ เพราะมีมาตรการสาธารณสุขเข้มงวดอยู่แล้ว ส่วนเด็กนักเรียนที่อยู่นอกระบบ เช่น เรียนในกศน.เบื้องต้นให้กศน.จังหวัด รวบรวมข้อมูลรายชื่อเด็กนักเรียนส่งไปทางสาธารณสุขจังหวัด เพื่อจัดสรรวัคซีนให้เด็กกลุ่มนี้ต่อไป
ภาพจาก TNN ONLINE